วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Reminiscence * Monochrome Checkmate - Killer's Anthem 2



สถานที่ : โรงพยาบาล


อิซึมิ : นายโง่รึเปล่า?! นายโง่รึเปล่าน่ะ นายมันโง่รึเปล่า?! ไปหาเรื่องชกต่อยกับคนอื่นมาเนี่ย?!


ถ้าเกิดนายทำตัวแบบนี้ล่ะก็ นายจะไม่ได้แค่ถูกพักการเรียนนะ นายจะถูกไล่ออก พวกเราไม่ได้อยากจะไปโรงเรียนธรรมดา รู้ตัวใช่มั้ย?


ฉันพูดกับนายมาตลอดนะ ช่วยทำตัวให้สมกับเป็นไอดอลหน่อยจะได้มั้ย


ถ้ามีคนพูดว่านายแย่ๆ ล่ะก็ อย่าไปต่อยมันสิ นายหายใจเข้าลึกๆ แล้วตั้งสติซะบ้าง! นี่มันเรื่องพื้นฐานเลยนะ พื้นฐานน่ะ!


ขายความน่าสนใจ! ความเชื่อใจเป็นที่หนึ่ง! ถ้านายไปต่อยตีกับใครล่ะก็ ชีวิตไอดอลของนายก็จะจบลง!


โชคดีนะ ที่ฮาสึมิยอมปล่อยนายไป แต่มันไม่มีครั้งหน้าแล้ว เข้าในมั้ย? คิดในเรื่องที่นายเพิ่งทำไปซะบ้าง!




เลโอ : หยุดบ่นฉันได้แล้ว! นายเป็นแม่ฉันรึไง?!




อิซึมิ : หา? นี่เป็นเพราะแม่นายไม่ยอมสอนนายมา ฉันเลยต้องมาสอนแทนเนี่ย!


ฉันไม่อยากจะนึกเลย ว่าพ่อแม่นายเป็นคนยังไง! อ๊าา นี่มันน่ารำคาญเป็นบ้า!




เลโอ : โอ๊ย อย่ามาหยิกแก้มฉันนะ! เซนะ เจ้าคนอันธพาล!


แล้วก็หยุดว่าแม่ฉันเสียๆ หายๆ ซักที จะว่าก็ว่าฉันคนเดียว แต่ใครก็ตามที่มามองพ่อแม่ฉันแย่ๆ ก็ควรไปตายซะ!

ไม่ใช่ครอบครัวของนาย ฉันแค่จะว่านาย นายคนเดียวนั่นแหละ เข้าใจมั้ย?




อิซึมิ : ถ้านายจะใส่ใจเรื่องพ่อแม่ล่ะก็ ใช้ชีวิตให้จริงจังหน่อย! แล้วไอ้พฤติกรรมที่นายทำโดยไม่สนใจพวกคนที่อยู่ข้างหลังนายล่ะ?!




เลโอ : อ๊า พอได้แล้ว! หุบปาก! ฉันบอกให้หยุดด่าฉันได้แล้ว! เจ้าโง่เซนะ! นายมันฉลาดแต่ก็โง่! โง่ โง่!




อิซึมิ : นายเรียนอะไรมาในช่วงมัธยมต้นเนี่ย!? นายมันไม่มีเซนส์ด้านภาษาเลยด้วยซ้ำ แถมนายยังอยากเป็นนักแต่งเพลงอีกต่างหาก...


เพราะแบบนั้นแหละ ฉันถึงได้ยิ่งย้ำนายไง




เลโอ : ฮึฮึ มันเพราะว่าฉันแต่งเพลงได้ไง! ฉันเป็นอัจฉริยะ ยังไงก็เถอะ! ฉันไม่มีความสามารถเรื่องเนื้อเพลงก็จริง แต่ว่าฉันก็ขอให้รูกะตันช่วยก็ได้!


เธอเป็นอัจฉริยะเหมือนกัน~ วะฮ่าฮ่า




อิซึมิ : ช่วงลดราคาขายอัจฉริยะรึไง มันมีธุรกิจพรรค์นั้นเหรอ... รูกะตัน? ใครอีกล่ะ? ฉันได้ยินนายพูดชื่อนั้นมาหลายรอบแล้วนะ?

ไม่ใช่ว่าฉันบอกไปแล้วเหรอ? เธอเป็นน้องสาวของฉัน! เซนะ นายเคยเจอมาแล้วนี่?

อา... ตอนที่ฉันไปบ้านนาย เธอใช่คนที่มักจะมาเปิดประตูให้เงียบๆ รึเปล่า?


พอฉันพูดกับเธอ เธอก็วิ่งหนีไปเลยทันที ฉันเลยไม่รู้หรอกว่าเธอเป็นยังไง




เลโอ : เธอขี้อายน่ะ แต่ยังไงก็ยังน่ารัก! อ๊ะ อยากจะเห็นรูปมั้ยล่ะ?


ไม่สิ มาดูรูปเลยเถอะ!


เห็นมั้ย อัลบั้มในมือถือของฉันมักจะเต็มไปด้วยรูปของรูกะตัน.... ☆


...เอ๊ะ? มือถือฉันหายไปแล้ว!




อิซึมิ : อ๊ะ นายทำหายอีกแล้วเหรอ?


ไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมนายมันโง่ได้ขนาดนี้เนี่ย?! อย่าไปไหนมาไหนแล้วทำของส่วนตัวหายไปทุกที่สิ!


ยังไงก็เถอะ ฉันก็ใส่รหัสผ่านทุกอย่างของตัวเองอยู่แล้ว เพราะงั้น... ถ้ามีคนไม่ดีขโมยมันไป ก็ไม่ค่อยต้องห่วงอะไร เพราะยังไงก็ใช้ไม่ได้อยู่ดี


ตอนนี้นายควรจะติดต่อบริษัทโทรศัพท์แล้วบอกให้เขาระงับมันก่อน เข้าใจมั้ย?




เลโอ : หืม~? ฉันไม่เข้าใจ! เซนะ ทำให้หน่อยสิ~ ♪




อิซึมิ : ...ฉันไม่ใช่ทาสนายนะ เข้าใจมั้ย?




เลโอ : ก็ใช่! แต่นายชอบดูแลคนอื่นใช่มั้ยล่ะ? แถมนายยังทำอะไรได้ดีกว่าฉันเป็นร้อยเท่า!


มันจะปลอดภัยกว่าถ้าฉันให้นายทำให้ วะฮ่าฮ่า! ☆




อิซึมิ : พูดตรงๆ เลยนะ นายอยากจะได้แผลที่ก้นเพิ่มมั้ยล่ะ?




เลโอ : อย่าพูดงั้นสิ! ฉันเชื่อใจนายนะไม่สิ ฉันหวังพึ่งนาย! ถ้ามันไม่ใช่เพื่อนาย ฉันคิดว่าฉันคงเริ่มคิดที่จะวางมือจากวงการไอดอลแล้วล่ะ!




อิซึมิ : มันจะเร็วไปที่นายคิดจะเลิกรึเปล่า เป็นเด็กรึไง? นายมีพรสวรรค์นะ ถ้านายตั้งใจล่ะก็ทำได้แน่


ทนต่อความเจ็บปวด กัดฟันแล้วสู้เข้าไป... แล้วก็โตเป็นผู้ใหญ่ซะ




เลโอ : อ๊าา อ๊าา! ไม่ ฉันไม่อยากโตเป็นผู้ใหญ่!




อิซึมิ : นี่มันที่สาธารณะนะ! อย่ามาตะโกนอะไรแบบนี้!




ทสึมุกิ : ...โอ๊ะ อะไรกันน่ะ? ฉันกำลังคิดว่าจะมีเรื่องอะไรซะอีก! ว่าไง

หืม นายเป็นใครน่ะ?




อิซึมิ : อ๊ะ นายไม่รู้จักเขาสินะ อืม... เขาคืออาโอบะ มาจากห้องเดียวกับฉัน


นายมาทำอะไรที่โรงพยาบาลน่ะ?


อ๊ะ... อาจารย์โฮมรูมสั่งให้นายมาเยี่ยมเจ้าเด็กหัวแก้วหัวแหวนนั่นสินะ?




ทสึมุกิ : ใช่~ ฉันมาเยี่ยมเอย์จิคุง ตอนแรกๆฉันก็กลัวๆ นิดหน่อย แต่หลังจากคุยกันไปนิดหน่อย เขาก็ดูเป็นคนดี แถมยังเป็นมิตรด้วย


เซนะคุง ถ้านายมีเวลาล่ะก็ ไปเยี่ยมเขาบ้างก็ดีนะ ดูเหมือนว่าเอย์จิคุงจะเหงาล่ะ


ยังไงก็เถอะ แล้วนายล่ะ มาทำอะไรที่นี่เหรอ? หรือว่าจะเป็นอะไร?


ดูแลตัวเองหน่อยนะ? นายอยากได้เครื่องรางที่ช่วยเรื่องสุขภาพรึเปล่า พวกเรามีเยอะมากเลยล่ะ


นี่ ฉันจะเอาอันนี้ห้อยไว้ที่กระเป๋าให้นายนะ... ♪




อิซึมิ : ฉันไม่อยากได้หรอก แล้วก็อย่ามาแตะกระเป๋าฉันด้วย ฉันไม่ต้องการเครื่องรางอะไรหรอก เพราะฉันไม่เชื่อเรื่องของพระเจ้า


ฉันมาที่นี่เพราะไอ้หมอนี่แหละ


ไม่กี่วันก่อน ไอ้โง่นี่เพิ่งจะทำแขนตัวเองหักไป แต่ฉันไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์หรอก เลยไม่รู้เรื่อง แต่เหมือนว่าจะไปต่อยกับใครมา?


หลังจากนั้น เขาก็ไปรักษาแขนที่โรงพยาบาล แถมยังวิ่งหนีแล้วแหกปากว่า "ไม่เอา!" ....


ฉันเลยต้องลากคอเขามาที่นี่ตอนนี้ยังไงล่ะ




เลโอ : ก็โรงพยาบาลมันมีแต่กลิ่นยา แถมยังน่าเบื่ออีก ฉันเลยไม่ชอบไง! แถมยังมีคนที่คิดจะเอาเข็มมาแทงฉันอีก!




อิซึมิ : นายกำลังพูดถึงหมอ...? พูดตรงๆ เลยนะ ฉันรู้สึกอย่างกับว่าเลี้ยงลูกเลยล่ะ


===========


มีเวลามาอัพต่อแล้วค่ะ เย่ะเข้าช่วงสอบแล้ว ก็เลยยุ่งขึ้นพอสมควร กว่าจะว่างมานั่งไล่แก้คำผิด ก็เลยช้าไปหน่อยค่ะ ฮาา


จริงๆ ยังลังเลอยู่ว่าอยากจะแปลบทของวันเกิดที่เขาลงไว้ด้วย จะทยอยเอาลงมาถ้าไหวแล้วกันค่ะ


ผิดพลาดตรงไหน หรืออยากให้แก้ยังไงสามารถแจ้งได้เสมอนะคะ


ตอนนี้กำลังงงๆ อยู่ ทำไมโพสต์แล้วมันมีฉากสีขาวๆ หว่า.. ไว้จะมาลองแก้นะคะ เล่นไม่เป็น--

วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Reminiscence * Monochrome Checkmate - Killer's Anthem 1





Location: โรงพยาบาล

เอย์จิ : ...♪


ทสึมุกิ : นายดูอารมณ์ดีนี่นา เอย์จิคุง? ♪


เอย์จิ : หืม? อ๊ะ เอ่อ... เธอเป็นใครนะ?


ทสึมุกิ : อะไรกัน?! อย่าลืมฉันสิ! ฉันอาโอบะ อยู่ห้องเดียวกันไง!



เอย์จิ : อ๊ะ... อาโอบะ ทสึมุกิคุง เป็นชื่อที่เรียบง่ายแต่ดูดีนะ ชื่อของผมมันดูมากไปโดยเปล่าประโยชน์ยังไงไม่รู้ ผมก็เลยรู้สึกอิจฉานิดหน่อยน่ะ



ทสึมุกิ : อะ ฮะ ฮะ นั่นสินะ เอ่อ... เท็นโชวอิน! เอย์จิ! เหมือนกับชื่อของพวกชื่อของซามูไรสมัยเซ็นโกคุเลยนะ



เอย์จิ : ฮึฮึ ถ้าผมเกิดในยุคเซ็นโกคุ ผมคงตายภายในไม่กี่วันแน่ๆ เพราะเรื่องสุขภาพของผม มันเป็นกฎของธรรมชาติที่สะท้อนกับความจริงได้มากๆ

แต่ถ้าเป็นตอนนี้ล่ะก็ ผมก็ยังมีชีวิตอยู่ ภายใต้ชื่อเท็นโชวอิน

....ยังไงก็เถอะ เธอมีธุระอะไรถึงได้มาที่นี่ล่ะ?



ทสึมุกิ : อ๊ะ ซักครู่นะ! นายเริ่มจะพูดออกมาเรื่อยเปื่อยจนฉันลืมจนได้!




เอย์จิ : ก็ผมรู้เรื่องพวกนี้พอควรนี่นา ไม่เป็นไรหรอก เธอไม่ต้องรีบพยายามคิดก็ได้ ถ้าเธอแค่พยักหน้ารับแล้วพูดแบบ "ใช่แล้ว!" "มันน่าสนใจ!" หรือ "อย่างที่เธอพูดนั่นแหละ!" หลายๆคนคงรู้สึกพอใจมากกว่านี้



ทสึมุกิ : อืม แต่ว่า... มันก็แอบน่าเศร้านิดหน่อย ถ้าฉัน.. สามารถเข้าใจอะไรที่หลายๆคนพูดได้น่ะนะ



เอย์จิ : ผมไม่คิดว่าเธอจะเข้าใจได้หรอก แต่ว่าผมไม่ได้ดูถูกความสามารถของเธอนะ แต่ว่าคนที่จะเข้าใจคนด้วยกันอย่างลึกซึ้งได้ก็เป็นแค่ภาพลวงตาเท่านั้นแหละ ถ้าเธอซ่อนอะไรบางอย่างหลังจากพูดล่ะก็ ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่ เธอจะดูเหมือนกับคนโง่ แต่ว่าผมคิดว่ามันดูดีนะ ดูเป็นธรรมชาติดี...

แต่การที่พยายามจะเข้าใจผม มีไม่กี่คนหรอกที่พยายามจะทำแบบนี้ ฮึฮึ เธอชักทำให้ผมสนใจแล้วสิ ♪



ทสึมุกิ : ฉันดีใจที่ได้ยินแบบนั้นนะ! ฉันยินดีมากเลย ที่จะเป็นเพื่อนกับนาย ยังไงซะ เราก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกันมาตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลินี่นา ♪



เอย์จิ : นั่นสินะ ผมอยู่ในโรงพยาบาลมาตั้งแต่ปีก่อน แถมยังมาโรงเรียนไม่ได้เลยอีก แต่ถ้ามนปีนี้สุขภาพของผมดีขึ้น....

ก็คงจะได้ไปโรงเรียนแล้วใช้ชีวิตตามปกติซักที ผมอยากจะทำแบบนั้นเต็มแก่แล้วล่ะ มันค่อความฝันของผมเลย แล้วก็นะ ผมจะนับถือเธอมากเลย ถ้าเกิดเธอสอนเรื่องต่างๆให้ผมน่ะนะ... อาโอบะคุง ♪



ทสึมุกิ : อ๊ะ แค่ "ทสึมุกิ" ก็ได้! เปิดใจให้กันเถอะ! ฉันไม่ค่อยชอบให้เรียกด้วยชื่อท้ายอยู่แล้วด้วย~ ♪



เอย์จิ : ผมก็ไม่ต่างกันล่ะ หรือว่าเธอจะเป็นประเภทที่ไม่ค่อยจะถูกกับที่บ้าน?

พวกคนที่มีปัญหากับที่บ้าน เรื่องเชื้อสายของตนเอง ไม่ชอบให้ถูกเรียกแบบนี้กันทั้งนั้นแหละ เพราะมันเป็นชื่อเดียวกับพวกพ่อแม่ไงล่ะ



ทสึมุกิ : อ๊ะ ไม่ใช่นะ ฉันเข้ากับพ่อแม่ได้ดีหรอก!

ถึงแม้ว่าจะเหมือนฉันรักพวกเขาข้างเดียวก็เถอะ! แค่พวกเขาให้กำเนิดโันแล้วฉันก็ไม่คิดว่าชั่วชีวิตจะชดใช้ได้หมดหรอกนะ!

มันก็แค่ว่า "อาโอบะคุง" หรือ "อาโอบะซัง" มันฟังดูเหมือน "โอบะซัง" ที่แปลว่าคุณป้า ฉันเลยไม่ชอบเฉยๆ

ในสมัยเด็กๆ ฉันโดนหลายๆ คนล้อด้วยเรื่องแบบนี้มาเยอะน่ะ~ ♪




เอย์จิ : เธอดูไม่เหมือนกับที่เขาว่ากันเลยนะ เธอดูเป็นคนที่น่าสนใจทีเดียว ....ผมจะจำไว้นะ ทสึมุกิ



ทสึมุกิ : โอเค! ยังไงฉันก็เป็นตัวแทนห้องอยู่แล้ว... ถ้าเกิดนายมีอะไรที่ไม่เข้าใจล่ะก็ ถามฉันได้เสมอเลยนะ

ครูประจำชั้นของพวกเราก็ขอให้ฉันดูแลนายเหมือนกัน

เพราะงั้น วันนี้ฉันเลยมาทำความรู้จักและพูดคุยกับนาย

นี่คือเลคเชอร์เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ที่เรียนที่โรงเรียนทั้งหมด นายจะใช้มันก็ได้ยะ ถ้านายต้องการ ♪



เอย์จิ : ขอบคุณ ว้าว เลคเชอร์นี่จดได้ละเอียดมากเลย...



ทสึมุกิ : มันเป็นความถนดอย่างเดียวของฉันน่ะ! ขอโทษนะ ถ้ามันอ่านยากไปหน่อย ลายมือฉันมันตัวเล็กแถมยังเละด้วย...

ฉันไม่รู้ว่านายอยากได้เนื้อหาส่วนไหนบ้าง ก็เลยจดทุกอย่างที่อาจารย์บอกมาให้น่ะ

ฉันเลยใส่ข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนที่ได้ข้อมูลน้อยเกินไปมาให้ด้วย



เอย์จิ : ผมว่ามันก็ดีพอสำหรับผมแล้วล่ะ ทุกสิ่งที่เธอทำมาให้มันก็มีค่าหมดนั่นแหละ...

เรียกว่ามันน่าประหลาดใจมากกว่าที่ยังมีคนจดเลคเชอร์ ทั้งๆที่นักเรียนคนอื่นในห้องน่าจะเอาแต่คุยกันแท้ๆ นี่มันมีประโยชน์สำหรับผมมากแน่ๆ ขอบคุณที่ช่วยนะ ทสึมุกิ

ยังไงก็เถอะ คอนนี้ผมรู้แล้วว่าเธอมาหาผมทำไม เธอมาในฐานะของตัวแทนห้องใช่มั้ยล่ะ...

เพราะว่าเธอพูดออกมาแล้วไงล่ะ ฮึฮึ ♪

ผมเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลแบบนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วล่ะ เพราะงั้นหลายๆ คนก็ควจะเหนื่อยกับการมาเยี่ยมผมแล้วล่ะ...

ผมสั่งพวกคนใช้ของผมว่าอย่าให้ใครเข้ามาภายในห้องผู้ป่วย แต่ว่า...

เมื่อนานมาแล้ว ผมย้ายจากห้องเดี่ยวไปอยู่ห้องรวม... เพราะงั้นเลยยากกับการที่จะห้ามทุกคนที่จะเข้ามาภายในห้อง

แต่ยังไงก็เถอะ มันก็มีคนที่มาเยี่ยมผู้ป่วยคนอื่นนอกจากผมด้วยยังไงล่ะ




ทสึมุกิ : ฮึฮึ ฉันน่ะ เก่งเรื่องการถูกเมิน แถมยังเข้ามาได้โดยไม่มีใครรู้ตัวเลยละ! อาจจะเป็นเพราะฉันดูเหมือนไม่มีตัวตนรึเปล่านะ..?



เอย์จิ : แล้วจะมาเป็นไอดอลด้วยเรื่องแบบนั้นได้ยังไง? ...แค่ก แค่ก!



ทสึมุกิ : อ๊ะ นายโอเครึเปล่า? ฉันขอโทษที่พูดมากเกินไปหน่อย! นายไม่ควรใช้แรงโดยเปล่าประโยชน์นะ เพราะงั้นเดี๋ยวฉันจะไปแล้ว โอเคมั้ย?

ขอโทษที่บุกรุกเข้ามา ฉันหวังว่าจะได้เจอนายที่โรงเรียนในเร็วๆนี้นะ เอย์จิคุง

พักผ่อนให้สบายใจจนกว่าจะหายเถอะ... ฉันจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ ถ้าต้องการอะไรช่วยบอกฉันด้วย



เอย์จิ : โอเค ขอบคุณนะ "นกสีฟ้าแห่งความสุข" ♪



ทสึมุกิ : อะไรนะ? นายจะสื่ออะไร? ขอโทษที ฉันไม่ค่อยจะเข้าใจน่ะ!



เอย์จิ : "อาโอะ" แปลว่าสีฟ้า แล้วก็เสียงของคำว่า "บะ" มันก็เลยเป็นนกสีฟ้า...

เหมือนกับว่าเธอจะมีปมกับชื่อท้ายของตัวเองใช่มั้ยล่ะ ผมก็เลยลองเปลี่ยนเป็นอะไรที่มันดูดีขึ้น แถมจะได้ขอบคุณที่เธอมาเยี่ยมผมด้วยไง?

ครั้งหน้าก็ช่วยมาคุยกับผมอีกนะ ทสึมุกิ ....ผมอยากจะเป็นเพื่อนกับเธอนะ


-----------------------
มาอัพบทแรกแล้วค่ะ! ตั้งใจจะมาอัพตั้งนานแล้วแต่ว่าติดลมความขี้เกียจค่ะ 55555

ภาษาถ้าแปลกๆ ตรงไหนสามารถทักได้เสมอนะคะ คำผิดก็ด้วย เพราะอันนี้เราเอาของเก่าที่เคยแปลไว้ตั้งนานแล้วมาลง สมัยที่เพิ่งหัดแปลใหม่ๆ ไม่ค่อยได้ตรวจทานเท่าไหร่เลย

เจอกันพาร์ทต่อไปนะคะ! ; v ;

วันอาทิตย์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Reminiscence * Monochrome Checkmate - Prologue




สถานที่ : ที่นั่งริมสวน

เอย์จิ : รุกฆาต



อิซึมิ : หา? นี่เล่นตลกอะไร? นี่มันไม่ขำนะ นี่พวกเราเพิ่งจะเริ่มด้วยซ้ำ แล้วนายกำลังคิดว่าจะชนะฉันได้แล้วเหรอ?

นายเป็นคนบอกเองนะ ที่ชวนมาเล่นหมากรุกน่ะ เพราแค่นั่งคุยเฉยๆคงจะน่าเบื่อ

อย่ามาตัดจบตามใจนายสิ อยากทำอะไรกันแน่?



เอย์จิ : ฮึฮึ ถ้าเป็นไปได้ ผมไม่อยากทำอะไรทั้งนั้นแหละ แค่หายใจมันก็ลำบากสำหรับผมแล้วล่ะ

แต่ว่างั้นเถอะ ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้เธอโมโหนะ อย่าเข้าใจผิดล่ะ ในกระดานหมากรุก การเดินตัวหมากในตาแรกก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สำคัญ ในตาต่อๆไป ทางเลือกในการเดินตัวหมากก็จะค่อยๆจำกัดขึ้เรื่อยๆ

มันก็เหมือนกับทฤษฎีของคณิตศาสตร์นั้นแหละ เมื่อแทนตัวเลขและสัญลักษณ์เข้าไปเท่าไหร่ คำตอบก็จะยิ่งชัดเจนออกมาเท่านั้น วิธีการของเธอมันพังไปตั้งแต่เริ่มแล้วล่ะ มันไม่มีทางที่เธอจะซ่อมมันได้โดยไม่พึ่งปาฏิหาริย์ เกมนี้มันเห็นจุดจบแล้วล่ะ ไม่คิดว่ามันจะเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์กับการเดินตัวหมากไปมาเพื่อพิสูจน์มันเหรอ?

ผมไม่อยากเสียแรงเปล่าหรอกนะ



อิซึมิ : อืม... ฉันไม่เห็นรู้สึกว่ากำลังจะแพ้เลย ยังไงฉันก็รับคำพูดนายไม่ได้หรอก ปล่อยให้ฉันเล่นต่อเถอะ

ตกลงรึเปล่าล่ะ เทนโชวอิน?



เอย์จิ : เอาเถอะ ผมก็ไม่อะไรหรอก ถึงแม้ว่าผมจะคิดว่ามันเสียเวลาเปล่าก็เถอะนะ
เซนะคุง หมากรุกเป็นเกมที่ผมถนัดนะ อย่างที่เธอรู้นั่นแหละ ผมสุขภาพอ่อนแอตั้งแต่เด็ก เพราะงั้นผมก็คงจะเล่นได้แต่พวกเกมที่เล่นในบ้านได้เท่านั้นล่ะ

ผมไม่มีอะไรทำหรอกนอกจากหมกมุ่นคิดแต่เรื่องเกี่ยวกับตัวเองมาตั้งแต่เมื่อก่อน....

ตั้งแต่เป็นตัวท็อปๆ ของการเล่นเกมกระดาน ผมก็เคยผ่านช่วงเวลาที่เป็นมือสมัครเล่นมาก่อนเหมือนกัน

ผมก็มีความทรงจำแย่ๆ เกี่ยวกับหมากรุกนะ ผมเลยไม่ได้แตะมันมาพักใหญ่ๆเลย

แต่ว่า จะหมากรุก คณิตศาสตร์ ดนตรี หรือความสามารถของเธออย่างบัลเล่ต์... ทุกอย่างก็เป็นความสามารถทั้งหมดนั่นแหละ

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะเล่นเกมที่พระเจ้าเป็นคนวางไว้

มันไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยตวามขยันหรือโชคหรอกนะ

ถึงแมต้ตั้งแต่เมื่อสมัยผมอายุสิบขวบ ผมก็ไม่เคยแพ้ใคร แม้แต่พวกผู้ใหญ่ก็ตาม

การเสมอ... หรือแม้แต่สิ่งที่ตัดสินผลแพ้ชนะไม่ได้เมื่อเล่นกับผม.... มีเพียงแค่     ทสึกินากะคุงเท่านั้นที่ทำได้



อิซึมิ : ถ้าเจ้าคนพื้นๆ แบบหมอนั่นก็ยังทำให้นายเสมอได้ งั้นยังไงฉันก็ชนะได้สบายๆ อยู่ปล้ว หมอนั่นทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่าเรื่องแต่งเพลงหรอก



เอย์จิ : งั้นเหรอ? ไม่ใช่ว่าเธอกำลังพยายามบังคับให้ตัวเองคิดแบบนั้นหรอเหรอ?



อิซึมิ : หืม... ถ้านายเสมอกับหมอนั่น งั้นความสามารถนายก็แค่เรื่องโกหกเท่านั้นล่ะ

ไม่ใช่ว่าการที่พวกเขามาเล่นแข่งกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตระกูลเทนโชวอิน พวกเขาตั้งใจแพ้เพราะมัวแต่เกรงใจความคิดของคนในตระกูลนายรึเปล่า?



เอย์จิ : จริงๆ มันก็เป็นไปได้นะ แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ ผมเป็นคนประเภทที่ว่าจะใช้ความสามารถจริงๆในการเล่นเพื่อให้ชนะเท่านั้น...

หมากรุกก็เช่นกัน ผมก็สามารถยืนยันได้ว่าผมไม่มีวันแพ้หรอก... เพราะแบบนั้นแหละ เข้าใจมั้ย เซนะคุง?

การ์ดทุกใบถูกวางไว้หมดแล้ว ทั้งความสามารถ สภาพแวดล้อม การสื่อสาร ข้อมูล...

ด้วยน้ำหนถกของสิ่งเหล่านี้ ก็พอสำหรับการยืนยันในชัยชนะของผมแล้วล่ะ ผมก็เลยกล้าพูดว่า "รุกฆาต" ยังไงล่ะ

หมากรุกเป็นเกมที่ที่สุภาพสะ ผมไม่อยากทำให้มันเป็นเกมที่สกปรกด้วยเลือดที่เป็นภัยของผมหรอก ผมเลยอยากให้เธอยอมแพ้ซะ

ผมอยากให้เกมนี้มันจบลงโดยที่ปลายดาบของผมจ่อลงกับคอของเธอ

ผมไม่จำเป็นต้องฆ่าเธอ มันไม่ใช่ความงดงาม แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ไม่ยอมรับมันอีก เพราะงั้นผมคงไม่มีทางเลือก



อิซึมิ : …......



เอย์จิ : เซนะคุง? อย่างน้อยก็ตอบอะไรหน่อยสิ มันทำให้ผมเหงานะ... เธอกำลังคิดอยู่งั้นเหรอ? หรือว่าเธอกำลังหาทางเอาชนะสถานการณ์ที่ไม่มีสิทธิ์เอาชนะได้นี่อยู่?

ยังไงก็ไร้ประโยชน์อยู่แล้วล่ะ ตั้งแต่ที่จุดมุ่งหมายของพวกเราคือการพูดคุย หมากรุกมันก็เป็นแค่ทางเลือกอีกแย่างในการหาอะไรทำ

ถ้าเกิดเธอกดดันมากเกินไปล่ะก็ ก็เท่ากับเธอแพ้แล้วล่ะ



อิซึมิ : อืม... ฉันยังยอมรับไม่ได้อยู่ดี ฉันไม่คิดว่าจะแพ้หรอก



เอย์จิ : เธอนี่มันหัวรั้นจริงๆ นะ เอาล่ะ งั้นก็ได้ เชิญใช้ความคิดให้พอใจเถอะ...

ถ้านายเอาแต่คิดว่าทำยังไงถึงจะชนะ มันจะยิ่งทำให้ผมได้เปรียบเรื่องการพูดคุยนะ ทุกอย่างก็จะกลายเป็นอย่างที่ผมต้องการ



อิซึมิ : นี่ไม่ใช่ที่สำหรับมาเจรจาต่อรอง มันไม่มีทางเลือกอื่นสำหรับฉันที่จะไหลไปตามเกมของนาย

แต่นั่นมันรบกวนฉันเหมือนกัน อย่างน้อยฉันก็แค่อยากจะชนะนายแล้วปล่อยนายนั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งไปซะ

ฉันจะเดินหมากไนท์... นายจะฆ่ามันรึเปล่า? เหมือนกับที่นายทำเมื่อนานมาแล้ว?



เอย์จิ : เธอก็รู้ว่าผมสามารถฆ่าใครก็ได้ถ้าผมต้องการ

ถ้าเธอกำลังวางแผนที่จะลดการโจมตีของผมลงด้วยการกระตุ้นความรู้สึกผิดในตัวผมล่ะก็ นั่นมันก็เป็นโชคร้ายของเธอแล้วล่ะ

ผมคือจักรพรรดิ ถ้าเมื่อไหร่ที่ผมเลือกที่จะนั่งบนบัลลังก์แล้ว ผมก็จะสูญเสียความเป็นมนุษย์ไป

ถ้ากฎถูกสร้างด้วยความรู้สึกของคนแล้วล่ะก็ ประเทศนั้นก็จะไม่คงอยู่หรอก



อิซึมิ : นายพูดขัดกันเองนะ มือนายไม่ยังไม่ขยับเลยนี่?



เอย์จิ : ...ขอโทษที เหมือนผมจะรู้สึกอาลัยอาวรณ์นิดหน่อยน่ะ ผมเล่นกับทสึกินากะคุงมาตั้งหลายตา แต่เขาก็มักจะเดินไนท์ไปข้างหน้าเสมอ



อิซึมิ : ดูเหมือนมันจะมีปริศนามากมายที่คนอย่างเจ้าหมอนั่นจะเล่นหมากรุกเป็น นี่หมอนั่นเข้าใจกฎของเกมนี้จริงเหรอ?

เขาไม่มีความจำอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองไม่สนใจหรอกนะ รู้มั้ย?



เอย์จิ : ผมก็เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน เขาชอบเพิ่มกฎใหม่ๆ เข้าไป อย่างเช่นไนท์สามารถใช้การโจมตีที่เป็นปัญหาได้ อย่างเช่น...

จริงๆเลยนะ ผมว่าผมตามเขาไม่ทัน

ผลลัพธ์ที่ออกมา เราไม่เคยหาบทสรุปได้ ไม่สิ มันไม่ได้ตั้งแต่การเริ่มเกมด้วยซ้ำ

ยังไงก็เถอะ ทสึกินากะคุงไม่เคยมีความตั้งใจอะไรที่จะเล่นอยู่แล้ว

นี่ เซนะคุง ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมทุกคนบอกมันเป็นความผิดของผม แถมผมยังเชื่อว่ามันจริงอีกต่างหาก...

แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะทำแบบนั้นอยู่แล้ว

ผมชอบทสึกินากะคุงนะ มันสนุกที่ผมได้เล่นกับเขา นี่ เซนะคุง... ทำไมทสึกินากะคุงถึงได้หยุดหายไปล่ะ?

ใครเป็นคนฆ่าเจ้าหนูโรบินนั่น?

--------

[Talk]  สุดท้ายก็ออกทะเลมาเป็นอีเว้นท์นี้จนได้ค่ะ 55555 ส่วนตัวเพราะว่าแปลไว้จนจบแล้ว แต่ว่าเอามาแก้ภาษานิดหน่อยค่ะ

**เจ้าหนูโรบิน แปลมาจากภาษาอังกฤษที่เขียนว่า Cock Robin นะคะ ในที่นี่ เอย์จิกล่าวถึงเลโอ เหมือนจะสื่อว่าเลโอคือโรบิน มีการใช้คำนี้ในอีเว้นท์ Star Festival เหมือนกันค่ะ

จะพยายามทยอยลงนะคะ ( *`ω´) ไว้ว่างๆ จะมาหัดแต่งบล็อคกันอีกที ยังเล่นไม่เป็นเลย 5555

สังเกตได้ว่า หน้าปกมีสองคน ลำเอียงอย่างเห็นได้ชัด-- ขอโทษค่ะ 55555 เพราะความติ่งล้วนๆ

วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

Aquarium - Prologue






สถานที่ : ริมทะเล


ปุกะ ปุก้า~


...โอ๊ะ? ว่าไง อันสุซัง~ ♪


มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ? หรือว่าคุณเองก็จะมา "อาบน้ำ" เหมือนกัน?


"ทะเล" ในเวลานี้น่ะ "อุณหภูมิกำลังดี" เลยนะครับ... ♪


เห็นมั้ย อุณหภูมิของน้ำน่ะ ทำให้คุณรู้สึกเหมือนกับถูกเทพีแห่งมหาสมุทรโอบกอดไว้เลยล่ะ~... ♪


หืมม ผมเดาผิดเหรอ? คุณกำลังเก็บ "ขยะ" ในระหว่างที่กำลัง "เดินเล่น" อย่างนั้นเหรอครับ?


อย่างที่คุณพูด คุณกำลังสวม "ชุดกีฬา" ที่เหมาะกับการ "ออกกำลังกาย" แล้วคุณก็กำลังถือ "ถุงขยะ" ด้วยนี่นา


หืมม งั้นเหรอ... ไม่นานมานี้ ยูเมะโนะซากิมีกิจกรรมเต็มไปหมด แถมยังมีดรีมเฟส ที่มีผู้ลมมากมาย


หลายๆ คนก็รู้เรื่องอยู่หรอก แต่ว่าก็ยังมี "บางคน" ที่มีนิสัยแย่ๆ อยู่...


คุณจะมาโยนเศษขยะทิ้งเหมือนกับว่าไปเที่ยวบ้านคนอื่นได้รึเปล่า ที่ทะเลแบบนี้?


เป็นเรื่องที่อภัยให้ไม่ได้เลยล่ะครับ แน่นอนว่าทะเลเองก็มี "ระบบการฟื้นฟู" เป็นของมันเอง แต่ว่ามนุษย์น่ะ สกปรก "มากกว่า" ที่ทะเลจะสามารถรับมือไหว


ทิ้งของที่ย่อยสลายไม่ได้ อย่างเช่น "พลาสติก" "ไวนิล" "ขวด" หรือ "ขยะอีนตราย"...


มันคือ "การดูถูก" ใช้ขยะในการ "ดูถูก" เลยล่ะครับ


คุณเมินเฉยต่อเรื่องพวกนี้ไม่ได้ คุณก็เลยมาเก็บขยะพวกนี้ใช่มั้ยครับ?


วิเศษไปเลย เด็กดี เด็กกกดี... ♪


โอ๊ะ สำหรับตอนนี้ คุณก็เลยจะ "มองว่ามันแย่แค่ไหน" แล้วก็ถ้าเกิดมันแย่ไปยิ่งกว่านี้ คุณก็จะทำ "งานพิเศษของโรงเรียน" เกี่ยวกับการ "เก็บขยะ"


แต่ว่า "ทำความสะอาด" ทะเล "ทั้งหมด" ด้วยตัวเอง มันเป็นไปไม่ได้หรอกนะครับ...?


คุณจะต้องพึ่งพา "พลังของทุกคน" หรือว่า "พลังที่แข็งแกร่ง"


เมื่อผมกลายเป็น "ผู้ใหญ่" ผมก็จะสามารถใช้ "พลัง" แบบนั้นได้เหมือนกัน...


แล้วผมเองก็อยากจะทำให้ "ทะเล" สะอาดด้วย มันจะเป็นการ "ตอบแทน" ความอ่อนโยนของเทพีแห่งท้องทะเล


ในตอนนี้ ผมเองก็ไม่ได้ "น่าพึ่งพา" สำหรับทะเลเท่าไหร่หรอกครับ...


แต่อย่างน้อยที่สุด ให้ผมช่วยคุณ "ถือ" ถุงขยะนะ อันสุซัง ผมจะช่วยเท่าที่ผมช่วยได้เลยล่ะครับ~


เฮะเฮะ ให้เป็นหน้าที่ของผมเถอะ มันอาจจะดูไม่เข้ากับผม แต่ว่าผมน่ะ มี "กำลัง" มากพอสมควรเลยนะ~





สถานที่ : เส้นทางไปโรงเรียน


ฟู่วว สุดท้ายพวกเราก็ทำมันจนได้ แล้วก็ "เก็บขยะ" ทั้งหมดจนหมด



ตอนนี้มันมืดแล้วนะครับ... อันสุซัง คุณอยู่ที่ไหนเหรอ? เดี๋ยวผมจะพาคุณไปส่งที่บ้านเองนะ



มัน "อันตราย" สำหรับเด็กผู้หญิง ที่จะ "เดินกลับบ้านคนเดียว" นะครับ คุณอาจจะโดนสัตว์ประหลาดหรือพวกคนไม่ดีทำร้ายเอาก็ได้



แต่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมจะปกป้องคุณเอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม



เฮะเฮะเฮะ ฟังดูเหมือนกับส่าผมเป็นฮีโร่เลยนะ... ♪



หืม? คุณไม่เคยได้ยินเรื่องของฮีโร่ที่เดินไปเดินมา ในสภาพเปียกโชกที่มองดูคนน่าสงสัยเหรอ?



พวกเขามีอยู่จริงนะครับ ผมเคยได้ยินเรื่องราวของฮีโร่มากมายในโลกนี้เลยล่ะ รู้มั้ย?



จิอากิเคยเล่าให้ผมฟังล่ะ



ก็นะ... เห็นมั้ย ผมมักจะดู "โทคุซัทสึ" กับทุกคนใน Ryuseitai อยู่บาอยๆ เพราะงั้นผมก็เลยรู้เรื่องพวกนี้พอสมควร



แต่ผมก็รู้สึกว่ามันดูยากอยู่นิดหน่อยน่ะนะ...



เพราะว่า ไม่สำคัญว่าผมจะทำอะไร ผมรู้สึกเข้าใจความรู้สึกของ "ผู้ร้าย"... ที่ไม่ค่อยเหมือนกับปกติ



แต่ว่าถ้าเกิดฮีโร่มีข้อผูกมัดว่าจะต้องแข็งแกร่งขึ้นหลังจากที่เอสชนะพวกเขามาได้แล้ว... และถ้าเกิดพวกเขาสามารถสืบสัญชาตญาณแห่งความถูกต้องของตัวเองยิ่งกว่านี้ล่ะก็...



ความผิดปกตินั้น ก็อาจจะมีค่าในการมรชีวิตอยู่เช่นกัน



...หวา! อันสุซัง คุณกำลังเอาผ้าขนหนูเช็ดผมอยู่นี่นา



คุณไม่ฟังอะไรผมเลยใช่มั้ยเนี่ย?



นี่มันแรงไปหน่อยนะครับ~ ช่วยทำให้มันเบากว่านี้ เหมือนกับที่คุณแม่ทำได้รึเปล่าครับ



อ๊ะ ไม่สิ ผมเองก็ไม่ได้พบกับ "คุณแม่" ของตัวเองบ่อยขนาดนั้นหรอก... มันคงจะคล้ายกับรูปภาพที่ผมมีอยู่ ไม่มากก็น้อยล่ะนะ



ใช่แล้ว คุณแม่ของผมน่ะ น่ารักมากๆ เลย



แต่ว่าเธอก็น่ากลัวอยู่นิดหน่อยนะครับ



ทุกครั้งที่ผมเจอเธอ เธอมักจะดุว่าผม เพราะว่าผมไม่ใช่เด็กดีซักเท่าไหร่



แต่ว่าผมก็ไม่อยากจะโดนดุหรอกครับ แล้วผมก็ไม่อยากจะเป็นปัญหาสำหรับใครด้วยเหมือนกัน... ผมก็เลยพยายามที่จะเป็น "เด็กดี"



ผมจะทำ แม้ว่ามันจะทำให้ผมไม่ใช่ฮีโร่ แต่ว่าผมก็อยากที่จะเป็น "เด็กดี"—แบบที่ฮีโร่อยากจะช่วยชีวิต


แต่ว่าสำหรับตอนนี้ เหมือนว่ามันจะ "ยาก" สำหรับผม



ผมมักจะเป็น "ตัวประหลาด" ที่ดูลึกลับเสมอ จริงมั้ยครับ?



………



... อ๊ะ ใช่แล้ว! ช่วย "รอ" ซักครู่นะครับ (*เสียงกร๊อบแกร๊บ)



อันสุซัง ผมขอให้สิ่งนี้ครับ



แทนคำขอบคุณของผม ที่คุณช่วยฟังผม แล้วก็เพราะว่าผมจะต้องแจกเจ้าพวกนี้ แล้วผมก็ไม่แน่ใจซะด้วยสิ ว่ามันต้องทำยังไง...



ก็เลยมีเหลือกับผมมากพอควรเลยล่ะครับ



ใช่ครับ มันคือตั๋วสำหรับไปอควาเรียม



รับไว้เถอะครับ นี่ถือว่าเป็นรางวัล ที่คุณทำงานหนัก



แล้วก็ ไปกันต่อเถอะครับ ถ้าเกิดคุณไม่รับกลับบ้านล่ะก็ คนที่บ้านจะเป็นห่วงคุณเอานะครับ... อันสุซัง


-------------



[Talk] จบไปแล้วกับสตอรี่พาร์ทแรกของ Aquarium นะคะ 5555 ถามว่าทำไมเป็น KnightsP แล้วถึงได้มีสตอรี่ชมรมของพี่ปุก้าออกมาก่อน


ตอบ จริงๆ มีของไนท์ที่แปลเอาไว้แล้วค่ะ 5555 แต่มันเก่าพอควร คิดว่าควรเอาไปแก้คำอะไรหลายๆ อย่างก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยเอามาลงอีกทีค่ะ


บทนี้แปลเพลินเลย ส่วนตัวสารภาพว่าชอบคานาตะคุงเหมือนกันค่ะ <3 <3 ก็เลยนั่งแปลเพลินจนติดลม รู้สึกตัวอีกทีก็จบ Prologue ซะแล้ว


ไว้เจอกันพาร์ทต่อไปค่ะ! หรือจะไหลไปเป็นสตอรี่อื่นๆ อีกรึเปล่าก็ไม่รู้ 5555




Cacophony◆Whirling Horror Night Halloween - HOLLOW WIN 8

  ผู้แปล : Grazioco สถานที่ : ห้องเก็บเสียงสำหรับซ้อม มาโคโตะ : อืม แต่ว่าช่วงนี้น่ะ ผมรู้สึกว่าต่อให้พวกเราพยายามจะกั๊กข้อมูลยังไง มั...