วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2562

ALWAYS HERO!


CV. Hose Yuichi (Morisawa Chiaki)


Baaningu Haato! Jasutisu Bureizu! 

Yondekure yo...... kaketsukeru kara! 

BURNING HEART! JUSTICE BLAZE!

เรียกฉันได้เลย.... แล้วฉันจะวิ่งเข้าไปช่วยเอง!


Sou sa dare ni datte kitto taisetsu na mono Aru hazu da......

sono mune de supaaku! 

Ganbatteiru kimi ni pinchi otozureteru 

Sonna toki wa ore o tayottekure! 

ใช่แล้ว ทุกคนต้องมีสิ่งที่สำคัญกับตัวเองแน่ๆ....

ประกายแสงในใจนั่นไง!

เธอพยายามเต็มที่แล้ว แต่กลับมาถึงทางตัน

ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นล่ะก็ พึ่งพาฉันได้เลยนะ!


Ano taiyou no you ni sora takaku kagayaki 

Mabushii yuuki todokeru to kimetanda!

เหมือนกับพระอาทิตย์ที่ส่องแสงบนท้องฟ้า

ฉันตัดสินใจที่จะมอบความกล้าที่สดใส!


Baaningu Haato! Jasutisu Bureizu! 

Inochi kakete tsuranuku koto chikatte susumu 

BURNING HEART! JUSTICE BLAZE!

ฉันสาบานว่าจะวิ่งไปบนเส้นทางข้างหน้าด้วยชีวิต


Ooruweizu Hiiroo! atsui tamashii da! 

Donna toki mo doko e datte tonde ikeru

ALWAYS HERO! ด้วยไฟแห่งความกล้า!

ไม่สำคัญว่าที่ไหนเมื่อไหร่ ฉันจะบินเข้าไปหาเธอเอง


Moshi mo kimi no yume ga yami ni tozasaretara 

Yondekure yo...... kaketsukeru kara! 

ถ้าความฝันของเธอจมลงไปในความมืดมิด

เรียกฉันได้เลย..... แล้วฉันจะวิ่งเข้าไปช่วยเอง!


Isshoukenmei de mo zenshin zenrei de mo 

Tsumazuite shimau koto mo aru 

Sonna kumotta kao zettai egao ni suru 

Sono tame ni ore wa koko ni iru!

แม้จะด้วยกำลังทั้งหมดของฉัน ร่างกายและจิตวิญญาณ

ฉันก็ยังสะดุดล้มอยู่หลายครั้ง

แต่ฉันสัญญาว่าจะทำให้ใบหน้าหม่นหมองนั่นมีรอยยิ้ม

ฉันถึงได้มาอยู่ตรงนี้ไงล่ะ!


Ano taiyou no you ni hare sora o tsuretekuru 

Mabushii hodo no kagayaki ni naru koto o...... kimetanda!

เหมือนกับพระอาทิตย์ ฉันจะนำมันมาไว้บนท้องฟ้าที่สดใส

ฉันตัดสินใจ... ที่จะเป็นแสงสว่างสดใส!


Baaningu Haato! Jasutisu Bureibu! 

Motto tsuyoku...... yowaki mono ni yorisou tame ni

BURNING HEART! JUSTICE BLAZE!

จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้น.... เพื่อปกป้องคนอ่อนแอ


Ooruweizu Hiiroo! akogareta sugata! 

Konnan sae mo gyakkyou sae mo norikoeteku

ALWAYS HERO! จะเป็นเหมือนกับบุคคบที่ฉันนับถือ!

ฉันจะเอาชนะความยากลำบาก หรือแม้แต่โชคชะตา


Moshi mo kimi no kokoro, namida nagashitanara 

Sugu ni ikou...... dakishimeru tame! 

ถ้าหัวใจของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา

ฉันจะไปหาเธอ..... เพื่อกอดเธอเอาไว้!


Mune no omoi atsuku natte iku 

Akogare wa mou tsuranuku ketsui 

Nando datte kurikaeshi chikau 

Mamoru tame ni tsuyoku narou, motto... motto! 

ความรู้สึกของฉันกำลังร้อนรุ่มในอก

ความทะเยอทะยานกลายเป็นเป้าหมายที่ทำให้ฉันฝ่าฟันไป

ฉันขอสาบานซ้ำแล้วซ้ำอีก

เพื่อที่จะปกป้องแล้ว ฉันจะแข็งแกร่งขึ้น... แข็งแกร่งขึ้นยิ่งกว่านี้!


Akai honoo! Seigi no akashi da! 

Taiyou no you na moeru haato, chikyuu o mamoru 

สีแดงของเปลวไฟ! สัญลักษณ์ของความยุติธรรม!

หัวใจที่กำลังเผาไหม้เหมือนกับพระอาทิตย์ จะปกป้องโลกใบนี้


Ooruweizu Hiiroo! ore no tamashii da! 

Ryuusei no you ni doko e datte tonde ikeru

ALWAYS HERO! วิญญาณของฉัน!

เหมือนกับดาวหางที่จะพุ่งไปที่ไหนก็ได้


Kujikesou na toki mo hitori ni wa sasenai 

Kaketsukeru zo...... "seigi no mikata" ga!

ถ้าเกิดเธอเจอกับปัญหา ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไว้คนเดียว


สหายของความยุติธรรม”..... จะวิ่งเข้าไปหาเธอเอง!


====================================

ฮีโร่ก็ต้องใช้ฟ้อนท์สีแดง!


วันนี้ไปนั่งฟังเพลงจิอากิวนซ้ำมาอีกรอบก็รู้สึกชอบความหมาย เลยไปนั่งอ่านอังกฤษแบบละเอียดๆ มาอีกทีค่ะ


โดนตกแน้ว....


ชอบคาร์สดใสแบบนี้จังเลย รักจิอากิกันมากๆ นะคะ เลิฟฟ <3 <3


วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2562

Reminiscence * End of the Marionette's Strings - Stand By Me

Reminiscence * Marionette Stand By Me

สถานที่ : ทางเดิน


ชู : .........


หืม? อะไรเนี่ย? ทำไมตึกถึงสั่นแบบนี้ล่ะ... แผ่นดินไหวเหรอ



คุโร : นี่ ตื่นแล้วเหรอ อิทสกิ?



ชู : หวา! ริว-- ริวคุ... คิริว!


เกิดอะไรขึ้นเนี่ย! อธิบายมาเดี๋ยวนี้! ทำไมนาย... อุ้มผมเหมือนเจ้าหญิงแบบนี้ล่ะ!?



คุโร : ก็นี่มันทางที่ง่ายที่สุดที่จะอุ้มนายได้นี่นา ตอนนี้นายน่ะ สูงขึ้นมากว่าตอนเด็กๆ ตั้งเยอะ การที่จะอุ้มนายเหมือนพวกเด็กทารกมันยากเหมือนกันนั่นแหละ....


แต่ว่ายังไงนายก็ตัวเล็กกว่าฉันอยู่ดีนั่นแหละ  ♪



ชู : ถ้าเกิดให้เทียบกับคนแบบนายแล้ว มนุษย์เกือบทั้งหมดก็ตัวเล็กหมดนั่นแหละ! ที่สำคัญ-- วางผมลงได้แล้ว! นี่มันน่าขายหน้าสุดๆ! พวกเราไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ กันแล้วนะ!



คุโร : ก็ใช่น่ะสิ? แต่ถึงนายจะพูดแบบนั้นก็เถอะ....


นายเป็นลมอยู่ตรงทางเดินน่ะ ก็เลย... ฉันทนเดินผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้หรอก ....เดี๋ยวจะอุ้มไปส่งที่ห้องพยาบาลนะ เพราะงั้นช่วยอยู่เงียบๆ ซักพักได้มั้ย



ชู : เหรอ? ผม... เป็นลมใช่มั้ย?



คุโร : ใช่ สีหน้านายดูไม่ดีเลยนะ ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วนายเองก็ไม่ใช่คนที่สุขภาพดีด้วย.... ระวังตัวหน่อยนะ? แล้วนี่ทุกวันนี้กินอาหารทุกมื้อรึเปล่า?


ตอนเด็กๆ หลายครั้งนายก็เป็นลมเพราะว่าน้ำตาลในเลือดต่ำใช่มั้ยล่ะ~  ♪



ชู : อา งั้นเหรอ.... ผมขอโทษนะ พอดีว่าผมไม่ได้นอนน่ะ แล้วผมก็ไม่ค่อยชอบทานอาหารเท่าไหร่ด้วย การเอาอะไรแปลกปลอมเข้ามาในร่างกายของผมมันทรมาณนะ



คุโร : พวกเราจริงจังในสิ่งที่ชอบและไม่ชอบนี่นะ~ แม่ฉันโกรธนายเรื่องพวกนี้บ่อยจะตายเมื่อก่อน



ชู : .........



คุโร : ....ฉันรู้มานิดหน่อยว่านายคงมีเรื่องกังวลเกี่ยวกับ Valkyrie ใช่มั้ย? ตอนนี้สุดท้ายนายก็ไม่ใช่ที่หนึ่งของยูเมะโนะซากิอีกต่อไปแล้วนี่นา?


แต่เพราะแบบนั้น นายก็เลยพยายามทำให้เต็มที่ที่สุดเพื่อแย่งต่ำแหน่งนั้นกลับมาใช่มั้ย?


แต่ว่ามันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องฝืนตัวเองจนล้มป่วยแบบนี้นี่นา ไม่มีใครดีใจกับเรื่องแบบนี้หรอกนะ



ชู : นี่นายกำลังพยายามจะดุผมงั้นเหรอ? น่าหงุดหงิดจริงๆ....


คนแบบนายที่ทำไม่ได้แม้แต่จะไปอยู่ข้างๆ แม่ของตัวเองในวาระสุดท้าย มีสิทธิ์ที่จะพูดเกี่ยวกับสุขภาพของคนอื่นด้วยเหรอ?


อย่ามาพยายามทำตัวอ่อนโยนเลย! เจ้าคนชั่ว!



คุโร : ฉันไม่มีอะไรจะพูดแก้ตัวหรอก ถ้าเกิดนายตื่นเต้นมากเกินไป มันอาจจะทำให้นายเป็นลมอีกก็ได้นะ


เวลาที่คนเราไม่มีสติจะยิ่งทำให้อาการหนักกว่าเดิมเป็นสองเท่านะ เพราะงั้นตั้งสติดีๆ ด้วย อย่าทำให้ฉันได้ปัญหามากล่ะ



ชู : ผมไม่ได้ขอให้นายช่วยซักหน่อย คิริว



คุโร : ฉันรู้เรื่องนั้นอยู่แล้ว ฉันถึงได้บอกไง วามันช่วยไม่ได้นี่



ชู : หึ เหนือสิ่งอื่นใด หัดมองตัวเองซะบ้างเถอะ ไม่ใช่ว่าพวกเรา.... จะตกต่ำซักหน่อย


แม้แต่ตอนนี้ พวกเรา Valkyrie.... ก็ยังคงเป็นที่สุด... พวกเราไม่ใช่อะไรที่จะสามารถนำไปเปรียบเทียบกับเจ้าพวกชั้นต่ำแบบนั้นได้ พวกเราแสดงการแสดงชั้นสูงอยู่แล้ว


สิ่งที่นายเห็นน่ะ มันก็แค่... เจ้าพวกนั้นทำไลฟ์ในระบบที่เรียกว่าดรีมเฟส แล้วก็....


พวกเราไม่เคยเข้าร่วมไลฟ์แบบนั้นเลย ก็เลยทำให้พวกเราไม่มีสถิติคะแนนในส่วนนั้นต่างหาก


แล้วในเวลาเดียวกัน เจ้าพวกชั่วช้าพวกนั้นก็จะไปกองกันอยู้ในระบบของดรีมเฟส แล้ว....


ภายใต้กฎที่สุดแสนจะไร้สาระของเกมนี้ เจ้าพวกนั้นก็สามารถไต่ขึ้นไปได้สูงยิ่งกว่าพวกเรา


พวกเราน่ะ... ไม่เคยแพ้ซักหน่อย Valkyrie น่ะ เป็นไอดอลที่สุดยอดที่สุด


การที่พวกเราถูกเรียกว่าลูซเซอร์น่ะ มันไม่ได้มีความหมายอะไร แต่ว่ามันก็แค่เรื่องน่าเศร้าเท่านั้นแหลพ!



คุโร : อาา จริงของนายนั่นแหละ.... แต่ว่านี่มันก็เป็นวิธีการของเจ้าพวกนั้นนี่นา? เจ้าพวกนั้นน่ะ เปลี่ยนกฎของการแข่งขัน เจ้าพวกเจ้าเล่ห์นั่น


และเมื่อมองภาพโดยรวมแล้ว ตอนนี้พวกนายก็ไม่ใช่ที่หนึ่งของยูเมะโนะซากิอีกต่อไป


แม้ว่านายจะเอาแต่ล่นเรื่องพวกนี้ มันก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก ไม่สำคัญว่านายจะตีโฮมรันได้เท่าไหร่ คะแนนก็ไม่มีวันเพิ่มขึ้นมาหรอก



ชู : Non!.... น่ารำคาญจริงๆ เจ้าพวกชั้นต่ำนั่นไม่มีวันเข้าใจศิลปะหรอก!


พวกเราสร้างการแสดงที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้ว ทำไมพวกเราที่ทำอย่างเต็มที่ถึงได้กลายเป็นสิ่งที่ไร้ค่า?


ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคือความผิดพลาด! ใครกัน.... ที่ทำให้ยูเมะโนะซากิกลายเป็นแบบนี้!?



คุโร : นั่นน่ะ.... ไม่ใช่อะไรที่ฉันสามารถพูดออกไปได้หรอก....


ฉัน... มีเอี่ยวเข้าไปด้วยเหมือนกัน แม้ว่านายจะติเกี่ยวกับมันในตอนนี้ มันก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้หรอก แล้วฉันก็เข้าไปเกี่ยวด้วยเรียบร้อยแล้ว


มันเป็นความผิดของพวกเราเองที่ไม่เห็นแผนการที่น่ารังเกียจนี้.... ก่อนที่มันจะกลายเป็นแบบนี้ แม้ว่าพวกเราจะรู้สึกผิด แต่ว่ามันก็สายไปแล้วล่ะ


ฉันขอโทษ อิทสึกิ ฉันอาจจะทำอะไรให้นายไม่ได้ในตอนนี้ แม้ว่าเมื่อก่อนฉันสัญญาว่าจะปกป้องนายอย่างแน่นอนก็ตาม


ดูเหมือนว่าฉันจะกลืนน้ำลายตัวเองแล้วล่ะ แม่ต้องโกรธฉันมากแน่ๆ



ชู : นั่นคือสัญญาของพวกเราในตอนเด็กใช่มั้ย คิริว? ไม่มีอะไรที่นายต้องเป็นห่วงหรอก แค่คุยกับผมในระหว่างที่อุ้มผมไปด้วย ผมที่ขยับไปไหนเองไม่ได้...


ไม่ใช่ว่าตอนนี้นายดูแลผมอย่างดีที่สุดแล้วเหรอ?


แต่ว่ายังไงก็เถอะ ผมเองก็ไม่ใช่เด็กทารกที่จะสะดุดล้มแล้วเอาแต่นั่งร้องไห้ใส่เจ้าพวกที่เข้ามารังแกผมหรอก


อย่างน้อยผมก็ดูแลตัวเองได้แล้ว... ผมก็พูดมาหลายรอบแล้วนะ วางผมลงได้แล้ว


ผมไม่ต้องการให้นายช่วยอีกต่อไปแล้ว อย่างน้อยผมก็อยากจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเมื่อก่อน แม้แต่นิดเดียวก็ยังดี



คุโร : งั้นเหรอ... ถึงนายจะเป็นคนที่อ่อนแอแต่ก็ยังหัวดื้อจริงๆ เลยนะ



ชู : ผมก็แค่มีความกล้าเท่านั้นแหละ ยิ่งคนเราร้องไห้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งน่ารังแกมากขึ้นเท่านั้น...


ถึงแม้กฎจะเปลี่ยนไป แต่พวกเราก็ทำได้แค่ยอมรับมัน


ยืนบนสนามรบเดียวกัน พวกเราก็ต้องเอาชนะได้อย่างสง่างาม พวกเราคือที่สุด ไม่สำคัญว่าใครจะมองพวกเรายังไง


ดรีมเฟสติวัล... ไลฟ์ที่จะได้ใช้การแสดงอย่างเต็มที่ พวกเราจะไปเข้าร่วมแล้วล่ะ


และที่นั่น พวกเราจะจัดการฆ่าเจ้าพวกชั้นต่ำนั่นให้หมด  แล้วเอาศพของเจ้าพวกนั้นเขวี้ยงลงไปใต้ทะเล เจ้าพวกที่ท้าทายความโกรธของพวกเรา เราจะทำให้มันสำนึกผิดซะ



คุโร : .....งั้นเหรอ? แต่ถ้าเกิดมันกลายเป็นสิ่งที่ใครบางคนหวังเอาไว้แล้วล่ะ?



ชู : หมายความว่ายังไง คิริว?



คุโร : ไม่มีอะไรหรอก แค่พูดกับตัวเองน่ะ มันเป็นไปไม่ได้หรอก....


หมอนั่นก็เป็นคน เป็นนักเรียนม.ปลาย จะคิดอะไรน่าขยะแขยงแบบนี้ได้เชียวเหรอ?


เขาไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่จะทำเรื่องแบบนี้ซะหน่อย? มันอาจจะเป็นแค่ความกังวลของฉันเองเท่านั้นแหละ...


แต่ว่าระวังตัวด้วยนะ "อิจจัง " ฉันเข้าไปช่วยนายบนเวทีไม่ได้หรอกนะ...


พวกเราเป็นแค่เด็กนักเรียน บางอย่างเราก็ไม่สามารถแก้ปัญหาด้วยกำลังได้หรอก



ชู : นั่นมันไม่เกี่ยวอะไรกับนายหรอก แต่ว่าผมไม่เป็นอะไรหรอกน่า...


พระเจ้าน่ะ... มอบความหยิ่งยโสให้กับมนุษย์เพื่อที่จะได้เหมาะสมกับรางวัลที่ได้รับ ความพยายามทั้งหมดของพวกเรา... ควรค่ากับการที่จะได้รับรางวัลแล้วล่ะ เพราะงั้น...


ถ้าเกิดไม่ได้ล่ะก็ มันคงจะสูญเปล่ามากแน่ๆ



===============================================

แปลไปก็รู้สึกว่าบทนี้หนักไป T v T


เล็งอยากแปลบทนี้มานานแล้วค่ะ 55555


ส่วนตัวชิปคู่คุโรชู เขินจัง <3 <3


จะสตอรี่ไหนก็รว๊ายทั้งนั้น อุแง 55555555

Cacophony◆Whirling Horror Night Halloween - HOLLOW WIN 8

  ผู้แปล : Grazioco สถานที่ : ห้องเก็บเสียงสำหรับซ้อม มาโคโตะ : อืม แต่ว่าช่วงนี้น่ะ ผมรู้สึกว่าต่อให้พวกเราพยายามจะกั๊กข้อมูลยังไง มั...