สึบารุ : …….
มาโอะ : ......
สึคาสะ : ....อ่านจบกันแล้วใช่มั้ยครับ? ผมมั่นใจว่าต้องอ่านจบแล้วแน่ๆ เนื้อหาของบทความมันไม่ได้ยาวขนาดนั้นซักหน่อย!
พวกคุณควรจะเข้าใจกันได้แล้วว่าทำไมพวกเราถึงโมโห!
มาโคโตะ : ......โทษนะ กำลังจะจบแล้วล่ะ แต่ว่ายัง
โฮคุโตะ : ยูกิ นี่ดูอะไรอยู่น่ะ? คำถามของบทความอยู่ตรงข้างหน้าต่างหาก ทำไมนายเปิดไปหน้าหลังล่ะ?
มาโคโตะ : .....ผมกำลังตรวจข้อมูลตีพิมพ์กับพวกข้อความจากบรรณาธิการอยู่
สึบารุ : เวลาที่นายพับเล่มไว้แบบนี้มันอ่านยากนะอุกกี้... มันมีแค่เล่มเดียว เพราะงั้นเรามาอ่านส่วนเดียวกันก่อนได้มั้ย?
มาโอะ : หืม~ นายเจออะไรเข้าเหรอ มาโคโตะ?
มาโคโตะ : ก็นะ... ผมแค่สงสัยว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบพิสูจน์อักษรในบทความนี้น่ะ
แต่ว่ามันไม่มีชื่ออยู่เลย ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะงั้นเราเลยไม่รู้ว่าใครคือ [ผู้ร้าย]
สึบารุ : ผู้ร้าย? ไม่ใช่คนที่สัมภาษณ์พวกเราแล้วเขียนบทความนี้เหรอ?
มาโคโตะ : ผมเองก็คิดเหมือนกัน แต่ว่านะ ผมเชื่อว่าคนที่มาเขียนน่ะ เป็นแค่นักข่าวอิสระ แล้วก็ไม่ได้ทำงานร่วมกับบริษัทนิตยสารเจ้าไหนหรอก....
อืม นั่นคือสิ่งที่เขียนอยู่ในนามบัตรที่ผมเซฟเอาไว้ในโทรศัพท์น่ะ
สึบารุ : นายเก็บของพวกนี้เอาไว้หมดเลยเหรอ อุกกี้?
ถึงฉันมักจะจำอะไรได้เยอะแยะ เพราะงั้นพวกนามบัตรที่ได้มากฉันก็เลยเก็บเอาไว้ในลิ้นชักที่บ้านหมดเลย!
มาโคโตะ : อะฮะฮะ ดูเหมือนว่านายจะจำทุกอย่างได้หมดเลยนะ อาเคโฮชิคุง
แต่ว่าความทรงจำเองก็อาจจะหลอกนายได้เหมือนกันนะ เพราะงั้นนายเองก็ควรไปจัดเรียงนามบัตรที่นายได้มา เพื่อที่จะเอามาอ้างอิงได้ตลอดเวลานะ รู้มั้ย?
มาโอะ : นั่นสินะ มันคือสิ่งที่คนทำงานควรจะทำกันเป็นเรื่องปกติ
สึบารุ : คนทำงานเหรอ... ชื่อเรียกแบบนั้นดูไม่ค่อยจะเหมาะกับพวกเราเท่าไหร่เลยนะ ถึงแม้ว่างานที่เราทำข้างนอกโรวเรียนมันจะเรียกว่าเป็นงานจริงๆ ที่พวกเราใช้หาเงินก็เถอะ
หรือจริงๆ แล้วฉันเองก็ควรจะจริงจังให้มากกว่านี้นะ?
โฮคุโตะ : ถ้าเกิดทำได้ ก็ทำเถอะ แต่ก็นะ ฉันเองก็ไม่ใช่คนที่กลับไปดูนามบัตรพวกนั้นบ่อยๆ หรอก เพราะงั้นฉันเองก็คงพูดอะไรไม่ได้
มาโอะ : พวกนายนี่นะ.... พอเป็นงานของไอดอล พวกนายก็เป็นเหมือนกับอัจฉริยะ แต่พอเป็นเรื่องของคอมมอนเซนส์นี่ พวกนายไม่ไหวกันเลยนะ
แต่ก็ มีฉันกับมาโคโตะคอยช่วยนี่นะ
มาโคโตะ : อื้ม ฉันน่ะ เรื่องข้อมูลนี่ของถนัด เพราะงั้น ไว้ใจได้เลย
สึบารุ : ก็มันไม่ใช่อะไรที่ไอดอลปกติควรจะทำนี่นา อย่างน้อยก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเลย
…แต่ว่านะ ถ้าเกิดพวกเราจะโยนทุกอย่างไปให้อันสุ เธอต้องระเบิดแน่ๆ เลย
มาโคโตะ : ฮึฮึ เธอพูดว่า [ไม่เป็นไรหรอก ฉันจะพยายาม] งั้นเหรอ อันสุจัง? ไม่หรอกนะ ตอนนี้ผมคิดว่าเธอทำเกินขีดจำกัดของตัวเองแล้วล่ะ เพราะงั้นอย่าฝืนตัวเองเลยนะ เข้าใจมั้ย?
โฮคุโตะ : อืม มาช่วยกันคนละไม้ละมือเถอะ พวกเราทั้ง 5 คน
อิซึมิ : เฮ้ เสร็จกันรึยัง? นี่พวกนายจะให้เรารอไปจนถึงเมื่อไหร่? เลิกคุยเล่นกันได้แล้ว พวกนายไม่เคยได้ยินคำว่า [เวลาเป็นเงินเป็นทอง] เหรอ?
ริทสึ : ฮึฮึ เวลาเป็นเงินเป็นทอง? นี่มันกฎเหล็กเลยนะ ♪
โฮคุโตะ : .....พูดได้ดีนี่ Knights
มาโคโตะ : ฮิดากะคุง ทำไมนายทำหน้าอย่างกับตัวการ์ตูนในการ์ตูนเด็กผู้ชายเลยล่ะ
เอาเถอะ ผมดูส่วนที่ผมคิดว่ามันสร้างปัญหาให้พวกเราแล้วล่ะ เพราะงั้นตอนนี้ผมคิดว่าผมเข้าใจปัญหาที่ว่าแล้วล่ะ
สึบารุ : เร็วจังเลย อุกกี้... ฉันเพิ่งจะอ่านบทความจบเอง
แต่ว่าจริงๆ แล้วก็ยังไม่เข้าใจอ่ะนะ ว่าทำไม Knights ถึงได้โมโหขนาดนี้?
อิซึมิ : ....อะไรนะ?
อาราชิ : เอ่อ ถ้าเกิดเธอพูดจริงๆ ไม่ได้ยั่วโมโหเราล่ะก็ ชั้นเริ่มจะเป็นห่วงเธอแล้วนะ... สึบารุจัง?
สึบารุ : อย่ามาเติม [จัง] กับชื่อฉันนะ พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นซักหน่อย?
อาราชิ : ตายจริง ดูเหมือนเธอจะไม่ค่อยชอบชั้นนะเนี่ย
สึบารุ : ไม่ใช่ว่าฉันไม่ชอบนายหรอก... เอ่อ นั่นสิ แต่ฉันอ่านบทความแล้ว มันไม่ได้มีเรื่องอะไรที่เป็นเรื่องโกหกซักหน่อยนี่?
ฉันเข้าใจว่าพวกเขาน่าจะพยายามจะสุมไฟทั้งๆ ที่ไม่มีไฟซะอีก
เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้น พ่อฉันโดนผลักจนจนมุม
สึคาสะ : ? เอ่อ เกิดอะไรขึ้นกับพ่อของคุณเหรอครับ รุ่นพี่... อาเคโฮชิ?
อิซึมิ : ....หืม ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ พวกนายเริ่มจะแย่ยิ่งกว่าที่ฉันคิดแล้วล่ะ นี่พวกนายไม่มีความทรงจำตอนที่ทำเรื่องแบบนี้เลยรึยังไง? บทความนี่น่ะ ไม่มีการโกหก แถมยังน่าสนใจมากๆ สำหรับพวกนายงั้นเหรอ?
มาโคโตะ : ด-เดี๋ยวก่อนครับ! ถึงมันจะไม่มีเรื่องโกหกก็เถอะ แต่ว่ามันมีเรื่องที่พูดเกินจริงครับ หรือ เอ่อเหมือนกับถูกปรุงแต่งให้เฮงซวยซะมากกว่า~!
อิซึมิ : ....เกิดอะไรขึ้นน่ะ ทำไมยูคุงไม่พูดจาให้สุภาพ?
นายไม่ได้สิทธิพิเศษเพียงเพราะว่าเป็นน้องชานที่แสนน่ารักของฉันหรอกนะ~ ทำตัวให้มีมารยาทกับรุ่นพี่ให้มากกว่านี้หน่อยสิ?
มาโคโตะ : เอ่อ อย่างแรกเลย ผมไม่ใช่น้องชายคุณ
เดี๋ยวสิ นี่มันไม่ใช่เวลามาพูดเรื่องแบบนี้นะ! ในตอนที่สัมภาษณ์ พวกเราพูดในสิ่งที่ผุดขึ้นมาก็เท่านั้น แต่ว่า...
คำตอบพวกนี้เหมือนถูกตัดแปะมารวมกัน เพราะงั้นองค์ประกอบมันก็เลยดูเปลี่ยนไป
พวกเราพูดสิ่งที่เขียนลงไปในบทความก็จริง แต่พอเปลี่ยนตำแหน่งของประโยคไปมา มันเลยทำให้ความหมายเปลี่ยนไปนิดหน่อย...
และในตอนนี้ สิ่งที่พวกเราอยากจะพูดออกไป มันเลยส่งไปไม่ถึงผู้อ่าน
เหมือนเล่นสกปรกเลย ผมเคยเห็นเรื่องแบบนี้ในอินเตอร์เน็ตมาบ้าง
เหมือนกับเอาคำพูดมาตัดแปะรวมๆ กัน แล้วจัดเรียงใหม่ แล้วก็นำไปใช้วิจารณ์ผู้อื่น ทำให้คนพวกนั้นกลายเป็นคนไม่ดี
แต่ผมไม่คิดว่าคนที่เป็นผู้ใหญ่ที่มีตำแหน่งและมีความรับผิดชอบ ที่รับผิดชอบทำนิตยสารระดับประเทศ จะทำอะไรแบบนี้...
น-นี่ไม่ได้ประสงค์ดีแน่ๆ! มีใครบางคนพยายามจะใส่ไฟพวกเรา!
โฮคุโตะ : โทษนะ แป๊ปนึงสิ ฉันตามไม่ทันแล้ว สรุปว่าเกิดอะไรขึ้นนะ ทำไมนายระแวงขนาดนี้ ยูกิ?
มาโอะ : ฉันคิดว่าฉันพอจะเข้าใจอยู่นะ ดูเหมือนว่ามีใครบางคนที่เจตนาไม่ดีพยายามจะแปลงข้อมูลพวกนี้อยู่สินะ
ฉันเองก็ไม่มั่นใจเท่าไหร่หรอก แต่ว่ามันอาจจะแค่บังเอิญถูกทำให้เนื้อหาของบทความ [ดูน่ากลัว]
อาราชิ : เธอจะบอกว่า [อย่าไปใส่ใจคนโง่ที่หวังร้าย] งั้นเหรอจ๊ะ?
ริทสึ : นี่นายเป็นฮันลอน เรเซอร์งั้นเหรอ? แปลกใจนะเนี่ย นายนี่ฉลาดกว่าที่คิดเยอะเลยนะ นัจจัง ♪
อาราชิ : ที่ว่าประหลาดใจนี่มันหมายความว่ายังไงกันจ๊ะ? ฉันไม่ค่อยได้อ่านหนังสือเท่าไหร่หรอก ฉันชอบพูดคุยมากกว่าน่ะ ไม่มีแหล่งข้อมูลไหนที่ดีไปกว่าคนจริงๆ หรอกนะ
สึบารุ : ...? อ๊ะ เหมือนว่าฉันจะเข้าใจสิ่งที่อุกกี้กับซารี่พูดแล้วล่ะ!
อะฮ่า มันเกิดเรื่องแบบนี้เองสินะ? หืมม สุดยอดไปเลย... อย่างกับไขปริศนาแน่ะ! ว้าว ยอดเลย♪
โฮคุโตะ : หืม? งั้นแปลว่ามีแค่ฉันที่ไม่เข้าใจอย่างนั้นเหรอ? ถ้าเกิดมันเหมือนกับปริศนาล่ะก็ มันก็ไม่ควรจะเกินไปกว่าขอบเขตความสามารถของฉันนี่....?
สึคาสะ : เอ่อ ผมเองก็เริ่มจะสับสนแล้ว!
ที่ผมตั้งใจจะทำก็แค่จะเรียก Trickstar ออกมา ที่ทำตัวสำคัญตัวเอง แล้วก็ทำลายชื่อเสียงของพวกเรานี่ แต่ว่า...?
===============
เราเป็นคนชอบทำข้อสอบไม่ตรวจทานค่ะ พอเห็นยูคุงพูดถึงเรื่องพิสูจน์อักษรแล้วอยากมีคนพิสูจน์อักษรให้เหมือนกันนะคะ ฮาา
เป็นคนไม่ค่อยชอบอ่านอะไรซ้ำเท่าไหร่ ก็เลยไม่ค่อยได้เช็คเลยค่ะ ยังไงถ้าเจอคำผิดก็มาคอมเม้นท์บอกกันได้นะคะ😢
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น