ผู้แปล : Grazioco
สถานที่ : ห้องเก็บเสียงสำหรับซ้อม
มาโคโตะ : อืม แต่ว่าช่วงนี้น่ะ ผมรู้สึกว่าต่อให้พวกเราพยายามจะกั๊กข้อมูลยังไง มันก็ยังรั่วไหลออกไปได้อยู่ดี และมันก็จะติดอยู่ในอินเตอร์เน็ตตลอดไปด้วย
แล้วมันก็น่าจะแปลกไปหน่อยด้วยถ้าเกิดพวกเราพยายามจะช่วยกันรวบรวมข้อมูลพวกนั้นไว้
ดีไม่ดีมันอาจจะไปจนถึงมือคนที่ปกติไม่อ่านแม็กกาซีน แล้วก็กลายเป็นข่าวลือที่น่าสนใจแม้ว่ามันจะไม่มีหลักฐานเลยแม้แต่น้อย
ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ซาเองุสะคุงตั้งเป้าเอาไว้
สึบารุ : อื๋ออ~ เรายังไม่มั่นใจซักหน่อยนี่ว่ามันเป็นแผนของบารี่น่ะ?
มันอาจจะเป็นความผิดพลาดของคนเขียนเฉยๆ ก็ได้ หรือไม่ก็ใครซักคนโดนเบื้องบนสั่งมาอะไรแบบนี้
มาโอะ : จริงด้วย ที่จริงแล้วการเจรจาให้พวกเราเขาแม็กกาซีนคืนไปอาจจะง่ายก็ได้ แต่ว่าไม่ใช่แค่เรื่องที่ว่าเราต้ิงใช้เงินเป็นจำนวนมากแล้ว เดี๋ยวมันก็จะมีคำถามตามมาว่าเราต้องตำหนิใครดี
ซึ่งคนที่เขียนบทความนี้น่ะ ก็จะเสียจุดยืนในสังคมไปทันที
เขาอาจจเป็นแค่คนที่โดนใครซักคนบังคับ หรือว่าทำอย่างไม่เต็มใจก็ได้
ถ้าเกิดฉันต้องทำลายชีวิตของใครซักคนล่ะก็ ฉันคงจะนอนไม่หลับแน่ๆ
การทำแบบนี้มันไม่ได้มีค่าอะไรมากมายหรอกถ้าเกิดเราไม่ได้เล็งไปให้ถูกที่น่ะ
อิซึมิ : อะไร? ทำมาเป็นใจดีแบบนั้นทำไม?
ไม่คิดว่าฉันจะสำคัญกว่าไอ้ใครซักคนที่นายไม่เคยแม้แต่จะเห็นหน้าเหรอ? ฉันกับ Knights ที่ทำงานกับพวกนายในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าพวกเราสำคัญกว่ารึไง?
ฉันทนไม่ได้หรอกนะถ้าเกิด Knights จะโดนดูถูกเหมือนกับเศษดินเศษทรายน่ะ
….ฉันจะไม่ปล่อยให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแล้ว อย่างน้อยในครั้งนี้ พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ
ริทสึ : อื้ม เนื้อหาส่วนมากพวกเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลยแท้ๆ นี่มันหาเรื่องกันลอยๆ ชัดๆ และที่สำคัญก็คือ ความเสียหายจากบทความนี้มันมีมากซะด้วย
ความพยายามที่พวกเราทำมามากกว่าครึ่งปีมันกำลังจะสูญเปล่า แล้วนิตยสารเล่มนี้มันก็กำลังจะทำให้พวกเราได้รับตราบาปมาอีก
ฉันไม่ได้เป็นห่วงอะไรเกี่ยวกับตัวเองมากมายหรอกนะ แต่ว่าเซคจังกับโอวซามะน่ะ กำลังจะต้องพยายามเพื่ออนาคตของตัวเองกันแล้วนะ ฉันเป็นห่วงสองคนนั้น
อิซึมิ : ไม่ได้ต้องการให้นายมาเป็นห่วงซักหน่อย แต่ว่าในความจริงแล้วน่ะ งานของไอดอลหรือว่าโมเดลมันต้องการความน่าเชื่อถือ
ถ้าเกิดคำพูดที่ว่า “เจ้าคนพวกนี้มันเป็นแค่ขยะขี้เกียจ” กลายเป็นความจริงในสาธารณะแล้วล่ะก็ พวกเราคงหางานทำไม่ได้
ริทสึ : อืม เพราะงั้นพวกเราก็เลยมีข้อเสนอที่จะเอามาแก้ปัญหา ถ้าเกิดพวกนายยอมรับมันล่ะก็ พวกเราจะปล่อยพวกนายไปในวันนี้
มันอาจจะเป็นเรื่องที่ไร้จุดหมายไปซะหน่อยสำหรับการที่จะเรียกคืนนิตยสารทั้งหมดนั่น ไม่ว่าจะเพราะมันดูสมจริงหรือว่ามันทำยาก
เพราะงั้นในกรณีนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่พอจะทำได้
และนั่นก็คือถ้าเกิดพวกนาย Trickstar สร้างจุดยืนในสังคมแล้วออกไปพูดต่อต้านบทความนั่น มันโดนปรุงแต่งขึ้นมาโดยไม่ได้มีความจริงอยู่เลย
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเชื่อในสิ่งที่พวกนายพูดหรอกนะ...
แล้วก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเชื่อในบทความนี้เช่นกัน เพราะงั้นอย่างน้อยทำแบบนี้ก็คงจะดีกว่าปล่อยเอาไว้เฉยๆ
มาโคโตะ : อืม ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่พวกเราต้องทำเหมือนกัน
โฮคุโตะ : ฉันก็เห็นด้วยนะ บทความนี้น่ะ ไม่ใช่แค่จะทำให้ Knights ตกต่ำเพียงอย่างเดียว แต่ว่ามันก็เป็นสิ่งที่จะทำให้พวกเราโดนคนในโรงเรียนเกลียดด้วยเหมือนกัน
ถ้าเกิดพวกเราไม่ปฏิเสธสิ่งที่ถูกเขียนลงในบทความ มันก็จะเป็นปัยหาสำหรับพวกเราเหมือนกัน
….น่าหงุดหงิดชะมัด หลังจากที่เจอเรื่องแย่ๆ ไปตอนซัมเมอร์ไลฟ์...
พวกเราอุตส่าห์พยายามจนได้ยืนบนสเตจของออธัมไลฟ์แล้ว พวกเราอุตส่าห์คิดว่าพวกเราพยายามมามากมายแล้ว
แม้ว่าพวกเราจะพยายามสู้อย่างยุติธรรมกับ Adam แล้วก็แข็งแกร่งขึ้น... ไม่สิ แม้ว่าพวกเราจะรู้สึกเหมือนได้รับรางวัลจากความพยายามของพวกเราแล้ว...
ถ้าเกิดความรู้สึกของพวกเราได้ส่งไปถึงผู้คนแล้ว พวกเราก็มั่นใจได้ว่าพวกเราจะสามารถโต้แย้งบทความนั้นออกไปได้ แต่ถ้าเกิดพวกเขาไม่เชื่อละก็ พวกเราจะลองกันอีกครั้ง ลองไปเรื่อยๆ
พวกเราจะตีกรอบมัน ว่าพวกเราน่ะเป็นไอดอลของยูเมะโนะซากิ อคาเดมี่ พวกเราเป็นไอดอลที่ขับเคลื่อนด้วยความน่าเชื่อถือ
พวกเราเลือกอะไรไม่ได้นอกจากทำมันซ้ำไปมาจนกว่าทุกคนจะเชื่อมั่นในตัวพวกเรา
ฉันเชื่อว่ามันจะต้องไม่เป็นไร สถานการณ์มันต้องดีขึ้นแน่ๆ หลังจากนั้น ความยุติธรรมจะต้องอยู่ข้างพวกเรา เพราะว่าพวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด
สึบารุ : ......
ริทสึ : อือฮึ แล้วก็... ถึงแม้ว่าจริงๆ พวกเราจะไม่ได้สนิทใจอะไรขนาดนั้น แต่ว่านี่คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับตอนนี้แล้วล่ะ
อิซึมิ : อืม ครั้งหน้าก็ระวังให้มากกว่านี้ล่ะเจ้าพวกโง่!
สึคาสะ : เอ่อ นี่พวกเราแก้ปัญหาได้แล้วเหรอ? ต-แต่ว่าทีแรกผมตั้งใจว่าจะมาต่อยนะ งั้นผมจะทำยังไงดี?
อิซึมิ : เล็งไปที่พุงกลมๆ ของนายไม่ก็อะไรซักอย่างซะคาสะคุง นายรู้ใช่มั้ยว่านายกำลังหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่าเพราะมันอ้วนจากภายใน นายก็เลยทำเป็นเมินใช่มั้ย?
แม้ว่าฉันจะพูดหลายทีแล้วนะว่าอย่ากินขนมน่ะ....?
สึคาสะ : ม-มันไม่ใช่ปัญหาซักหน่อย! ผมเป็นวัยกำลังโตนะ! ผมกำลังโตต่างหาก!
อาราชิ : อืมมม~... นี่ ริทสึจัง เธอคิดว่าเรื่องนี้น่ะ จะแก้ปัญหาได้ทั้งหมดอย่างสวยงามเหรอ?
ริทสึ : ไม่หรอก ยังไงพวกเราก็ต้องได้รับผลกระทบบ้างแน่นอน พวกเราแค่พยายามจะเบรคมันให้เบาลงก็เท่สนั้น
ถ้าเกิดพวกเราโชคดีล่ะก็ ในอนาคตมันอาจจะกลายเป็นเรื่องที่พวกเราสามารถพูดออกมาได้ว่า “จริงด้วย เมื่อก่อนเคยเกิดเรื่องแบบนี้สินะ” แล้วก็หัวเราออกมาได้อย่างเต็มปาก
แต่ว่าจริงๆ ฉันก็สังหรณ์ใจไม่ดีกับเรื่องนี้เท่าไหร่... เหมือนว่าพวกเรากำลังมองข้ามอะไรบางอย่างที่สำคัญมากๆ ไป
(อืม~... มันอาจจะไร้ค่าจริงๆ ก็ได้ ช่วงนี้ฉันรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอลงมาก เพราะงั้นความคิดของฉันเลยไม่ค่อยจะเฉียบคมใเท่าไหร่)
===============
กว่าจะจบพาร์ทแรก ฮื่อออ อวยพรให้สตอรี่นี้ไม่ข้ามปีกันด้วยนะคะะ