Location: ที่นั่งริมสวน
เอย์จิ : เอาล่ะ แล้วตอนนี้เธอเริ่มจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างรึยังล่ะ... เซนะคุง?
ผมอยากให้เธอรีบๆ คิดได้แล้วนะ ว่าจะเดินตัวหมากตัวไหนต่อน่ะ
ผมรอนานกว่านี้ไม่ไหวแล้วนะ รู้มั้ย
ผมยุ่งนะ แล้วเธอก็ไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไรด้วย
ยังไงผมก็หาคนอื่นมาแทนได้เสมอแล้วล่ะ ถ้าเกิดผมพึ่งพาเธอไม่ได้น่ะนะ
แต่ยังไงผมก็คิดว่าเธอคงเลือกที่จะนั่งอยู่บนม้าที่สามารถพาเธอเข้าไปสู่เส้นชัยให้ได้อยู่แล้วล่ะ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ใช่อัศวินที่น่าทึ่งที่จะสามารถควบคุมม้าพันธุ์ดีๆ เอาไว้ได้หมด แม้ว่ามันจะพยศซักแค่ไหนก็ตาม
อิซึมิ : ...อย่างที่ฉันคิดเอาไว้ ทุกอย่างที่นายทำมันก็เป็นแค่คำโกหกคำโตสินะ
นายยังไม่ได้อยู่ใกล้กับชัยชนะที่แน่นอนเลยนี่ แล้วที่นายพูดว่ารุกฆาตขึ้นมา นี่เพื่ออะไร...
ถ้าเกิดฉันเดินตัวหมากไปแบบนี้ ฉันก็จะออกจากสถานการณ์วิกฤตตรงนี้ได้ ตานี้มันยังอยู่ห่างไกลจากจุดจบอยู่หรอก จริงมั้ย?
พูดให้คนอื่นหลงกล หลอกลวง ให้คนอื่นเข้าใจว่านายเป็นผู้ชนะ...
เพื่อทำให้คนอื่นสับสน อยู่ในการควบคุมของนาย สร้างอาณาจักรแห่งภาพลวงตาของนายขึ้นมา
เอย์จิ : ผมคงไม่ปฏิเสธเรื่องนั้นหรอก จนกว่าผมจะจบมันได้ ผมก็ไม่มีวันชนะหรอกนะ แต่ว่าผมก็ไม่อยากจะแพ้ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม
ผมไม่สามารถห้ามตัวเองให้เล่นอย่างยุติธรรมเสมอได้หรอก ผมไม่อยากจะให้ใครแย่งมันไปจากผมทั้งนั้น... แล้วผมก็จะไม่มีวันเสียใจภายหลัง ผมก็จะไม่รู้สึกด้วย
ไม่ว่าจะถูกสร้างภาพลวงตาขึ้น หรืออะไรก็ตาม ชัยชนะก็คือชัยชนะ ผู้ที่จะได้อยู่จนถึงในตอนจบและเหมาะกับคำว่าชัยชนะย่อมเป็นผมอยู่แล้ว
อิซึมิ : อืม ดีใจด้วยะ
นายชนะแล้ว ดีใจด้วยแล้วกัน
เอย์จิ : ……
สึคาสะ : รุ่นพี่เซนะ~!
ผมตามหาคุณซะทั่วเลย แล้วคุณก็มาฆ่าเวลาเล่นอยู่ในสถานที่แบบนี้อีกต่างหาก!
ผมพูดเลยนะ ตอนนี้ผมร้องเพลงที่คุณสั่งมาได้แล้วล่ะ!
เพราะแบบนี้ ผมก็จะถูกพิจารณาให้เป็นสมาชิกของ Knights แล้วใช่มั้ยครับ!?
นั่นคือข้อตกลงที่คุณวางเอาไว้ใช้มั้ยครับ? แล้วก็แน่นอนว่า ผมอยากจะเข้าร่วม DDD ที่คุณพูดถึงไว้ตอนนั้นด้วย!
ผมยินดีโดยไร้ข้อโต้แย้งเลบครับ! ตอนนี้แหละ พวกเรารีบไปเริ่มฝึก Lesson สำหรับ DDD ด้วยกันเลยเถอะครับ...!
เอย์จิ : ฮึฮึ ผมดีใจนะ ที่เห็นเธอกระตือรือร้นแบบนี้ สึคาสะคุง แต่ว่าการที่เธอตะโกนโหวกเหวกแบบนี้มันดูหยาบคายนะ รู้มั้ย?
สึคาสะ : เอ๊ะ!? อ๊ะ อื๋อ... หวา—?
ร—รุ่นพี่เซนะ? คุณรู้จักคนคนนี้ด้วยเหรอ? พวกคุณมีความสัมพันธ์ยังไงกันแน่เนี่ย!?
อิซึมิ : ก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของฉันไง ...ยังไงก็เถอะ ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวจะรีบตามไปที่ห้องซ้อมก็แล้วกัน เพราะงั้นตอนนี้ช่วยไปก่อนเถอะ ตอนนี้พวกฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกันนะ คาสะคุง
เอย์จิ : อื้ม ผมขอยืมตัวเซนะคุงอีกซักแป๊ปนึงนะ ขอโทษทีนะ
สึคาสะ : ค-ครับ ถ้าเกิดเป็นคำพูดของท่านพี่เท็นโชวอินล่ะก็ ผมจะทำตามแล้วกัน
แต่ว่าช่วยทำตามสิ่งที่คุณพูดด้วยนะครับ แล้วรีบตามมาที่ห้องซ้อมหลังจากนี้ด้วย นะครับ... รุ่นพี่เซนะ?
เดี๋ยวผมจะล่วงหน้าไปก่อนแล้วทำความสะอาดห้องไว้รอนะครับ! แล้วก็อาจจะไปรวบรวมตัวสมาชิกคนอื่นของ Knights มาด้วย!
เพราะงั้นในตอนนี้ ขอตัวก่อนนะครับ? ตามสบายเลยนะครับ... ♪
เอย์จิ : บ๊ายบายย~ ♪
อะฮะฮะ เธอเรียกเขาว่า "คาสะคุง" งั้นสินะ? น่ารักจริง ชื่อเล่นเนี่ย...
ผมคิดว่าสึคาสะคุงคงจะดีใจมากเลยล่ะ เพราะว่าคนส่วนมากมักจะเว้นระยะห่างจากเขา เพราะว่าเขาเป็นเศรษฐี
นั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงได้ดีใจมากๆ... ที่ได้เป็นเพื่อนกับใครซักคนที่สามารถเล่นกันได้ จากการที่ได้เจอกันโดยบังเอิญ มากกว่าการที่มาตามคำขอของคนอื่น...
ในการที่ได้พบกับทสึกินากะคุง ผมคิดว่าคงจะเป็นโชคดีโดยแท้จริงเลยแหละ
แต่ก็น่าดีใจสำหรับผมล่ะนะ ความเป็นเพื่อนทุกอย่างของเขากับผมในตอนนี้แตกสลายอย่างไม่เหลือชิ้นดีแล้วล่ะ
อิซึมิ : นี่ เท็นโชวอิน ฉันรู้หรอกว่านายคงเบื่อที่จะได้ยินอะไรแบบนี้แล้ว แต่คิดว่าตัวเองเป็นใครไม่ทราบ? มันเป็นไปไม่ได้หรอกว่าทุกอย่างมันจะเป็นความผิดของนาย
คนคนนั้น— เลโอคุง... มันไม่ใช่ความผิดของนายหรอกที่เขาถูกทำลายแบบนั้น
แน่นอนว่าเขาก็ได้เข้ามาสู้กับนายอยู่หลายรอบ แล้วก็สร้างปัญหาให้นายอยู่เสมอ
แต่ความจริงแล้วเรื่องทั้งหมด มันเป็นความผิดของฉันต่างหาก
"อินสปิเรชั่น มันมาแล้ว มาแล้ว"
เขามักจะพูดแบบนี้เสมอ เวลาที่พวกเราได้เจอหน้ากัน
เขาชอบบอกว่า เพียงแค่ได้มองหน้าฉัน เขาก็สามารถสร้างผลงานขิ้นเอกขึ้นมาได้อย่างไร้ที่สิ้นสุดแล้ว
มันอาจจะฟังดูหยิ่งผยอง แต่ว่าคนที่มอบไอเดียทั้งหมดให้เขาก็คือฉัน
ด้วยแรงจูงใจจากอารมณ์และบทบาทของฉัน และเขาก็ด่างพร้อยไปด้วยความมุ่งร้าย
ฉันมันก็เป็นแค่ไอ้คนไม่สมประกอบที่ไม่เคยจะพอใจกับอะไรซักที และอยากจะถูกยอมรับใจจะขาด...
ในความต้องการที่จะทำลายเจ้าพวกที่คิดจะกีดกันฉันออกไป สุดท้ายฉันก็จมลงไปในความทะเยอทะยานของเขาเช่นกัน
เขาเป็นเหมือนกับเด็กน้อยที่บริสุทธิ์และใสซื่อ แล้วฉันก็เป็นคนที่ทำให้เขาเต็มไปด้วยรอยด่างพร้อย
เขาทำมันเพื่อฉัน เขายอมโยนความดีในหัวใจทั้งหมดของเขาทิ้งไป แค่เพราะเป็นความต้องการและเป็นสิ่งที่ฉันพยายามค้นหา จากในส่วนลึกของหัวใจของฉัน เขาบดขยี้และทำลายทุกอย่างที่ฉันเกลียด
ความโกรธแค้นเริ่มก่อตัวขึ้นมารอบๆ ตัวของพวกเรา
มันสร้างความเกลียดชังขึ้นมา และก็เริ่มที่จะส่งผลกระทยต่อผลโหวตของพวกเรา...
และในดรีมเฟส ไม่สำคัญว่าเขาจะสร้างผลงานชิ้นเอกขึ้นมายังไง ชื่อเสียงของเขาก็มีแต่จะดำดิ่งลงไปยิ่งกว่าเดิม
เขาทนมันไม่ไหว ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นแค่คงโง่ๆ มาตลอดก็ตาม...
ชีวิตที่จะต้องทำร้ายและฆ่าคนต่อไปเรื่อยๆ ทุกวัน ทุกวันน่ะ มันยากเกินกว่าที่เขาจะทนแบกรับมันเอาไว้ได้แล้ว
มันทำให้คำพูดและการกระทำของเขาดุร้ายขึ้น และโหดร้ายกว่าเดิม...
และนั่นก็ทำให้หลายๆ คนรู้สึกกลัว และรังเกียจเขา แฟนๆ ที่เคยชอบเขาเพราะเขาทั้งอ่อนโยนและน่ารักก็ค่อยๆ หายไปทีละนิด..
คนที่เคยเป็นเพื่อนพ้องของเขาก็ค่อยๆ กระจายข่าวลือที่น่ารังเกียจของเขาออกไปเรื่อยๆ แล้วคนที่ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นก็เริ่มจะเชื่อในข่าวลือนั่น...
แต่ยังไงก็ตาม แม้ว่าเขาจะได้รับมัน และไม่สำคัญว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหนก็ตาม เขาก็ยังคงทำตามใจชอบอยู่เหมือนเดิมเสมอ
เพราะสิ่งสิ่งนั้นได้เกิดขึ้น เขาจึงแตกสลายจนไม่เหลือชิ้นดี นายเองก็ได้ไปเจอเขามาเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ...
เขาคอยหลบๆ ซ่อนๆ มาเป็นระยะแล้ว แต่เขาก็เริ่มจะหมดกำลังใจทร่จะขอโทษนายแล้วใช่มั้ย?
เพราะว่าเขาเองก็ขอโทษฉัน "ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ" เขาพูดแบบนั้น... ความผิดหวังและความไม่เต็มใจมันทำให้เขาตกลงไปในห้วงแห่งความรู้สึกผิด
การแต่งเพลงคือทุกอย่างสำหรับเบา แต่ในตอนนี้เขาเขากลับอยู่ในจุดที่ตกต่ำที่สุด แม้ว่าแต่เพลงธรรมดาๆ ออกมายังทำไม่ได้
เขาบอกฉันว่าทำนองที่เขาได้ยินมันมีเพียงแค่เสียงกรีดร้องและคำสาปแช่ง
แม้แต่อยากจะหายใจเขายังทำไม่ได้เลย เหมือนว่าเขาจะเต็มไปด้วยบาดแผลที่แม้แต่ฉันยังไม่กล้าที่จะมอง...
แม้จะเป็นแบบนั้น เขาก็ยังพยายามที่จะฝืนมือที่ไร้เรี่ยวแรงของเขา และพยายามที่จะเขียนลงไปบนกระดาษโน้ต
เขาพูดว่า "เดี๋ยวก่อน! ฉันกำลังสร้างผลงานชิ้นเอกอยู่ตอนนี้!"...
เขาเชื่อว่าเขาจะไร้ค่า ถ้าเกิดเขาไม่สามารถแม้แต่จะแต่งเพลงขึ้นมาได้ และเขาจะถูกฉันและคนอื่นๆ ทอดทิ้ง
เขาก็เลยตัดสินใจกัดมือของตัวเอง และแต่งเพลงขึ้นมาด้วยเลือดของตัวเอง
============================
มาแก้คำผิดของคาสะคุงแล้วนะคะ!