วันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Reminiscence * Monochrome Checkmate - Rusting Heart 1



Checkmate rusting heart 1
Location: โรงพยาบาล (ห้องเดี่ยว)


เอย์จิ : เอาล่ะ ตัดสินใจได้แล้ว ผมมีเรื่องข้อจำกัดนิดหน่อย แต่ว่ามาตัดสินใจส่วนสุดท้ายกันเถอะ

ถ้าเกิดพวกเราไม่เริ่มเคลื่อนไหวให้ไวกว่านี้ล่ะก็ เราก็มีแต่จะเชิญพวกอุปสรรคเข้ามาในเรื่องราวของพวกเรา...

เวลาไม่เคยคอยใคร ถ้าเกิดพวกเราไม่รีบไในช่วงเวลาที่เหมาะ รถไฟแห่งความจริงก็จะพาพวกเราไป

ผมไม่สามารถมองเห็นเรื่องราวที่ห่างไกลไปจากห้องของโรงพยาบาลได้อีกแล้ว ให้พวกเราได้เริ่มเถอะ เรื่องราวที่จะถูกแสดงโดยผมและเธอ


ทสึมุกิ : นายเรียกฉันรึเปล่า เอย์จิคุง~?


เอย์จิ : ผมไม่ได้เรียกเธอนะ ...เธอเนี่ย มาเยี่ยมผมบ่อยจังเลยนะ ทสึมุกิ

ผมคิดว่าบ้านของเธอมันไกลจากที่นี่พอควรเลยนะ ค่าเดินทางมาที่นี่มันก็ไม่ใช่ถูกๆ เลยนี่นา?


ทสึมุกิ : อ๊ะ แต่ฉันเป็นเพื่อนนายนะ เอย์จิคุงพวกเราจะทำงานในยูนิตเดียวกัน ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เพราะงั้นฉันก็เลยคิดว่าฉันคงจะมาหานายเท่าที่มาได้ เพื่อที่จะได้รู้จักนายมากขึ้น


เอย์จิ : พวกเราก็ไม่ใช่เพื่อนที่แสนสุขหรืออะไรเลยนะ... แต่ผมดีใจนะ ถ้าเกิดเธอคิดแบบนั้น ทสึมุกิ ถ้าเป็นไปได้ล่ะก็ มาเป็นเพื่อนกันไปนานๆ เลยนะ


ทสึมุกิ : แน่นอนพวกเราจะเป็นเพื่อนกันตลอดดดไป เอย์จิคุ~ 


เอย์จิ : แน่นอน ตราบใดที่เธอยังมีประโยชน์กับผม พวกเราก็จะเป็นเพื่อนกันไปตลอดด


ทสึมุกิ : หืม เมื่อกี้นายพูดอะไรที่ฟังดูน่ากลัวๆ รึเปล่า!?


เอย์จิ : เธอคิดมากไปแล้ว ยิ่งกว่านั้น เธอได้ทำที่ผมขอเอาไว้รึเปล่า?

ขอโทษนะ อาการของผมมันแบาลง เลยต้องอยู่ในโรงพยาบางต่ออีกแล้ว...

ผมทำอะไรเองไม่ได้เลย

ผมตื่นเต้นมาหไปหน่อย ที่จะได้ออกจากโรงพยาบาล แล้วมันดันส่งผลตรงกันข้ามเนี่ยสิ อึ่ก แย่จริงๆ โดยเฉพาะ เมื่อมันเป็นตอนที่แผนการของพวกเราจะต้องเริ่มขึ้นน่ะ


ทสึมุกิ : อะฮะฮะ โชคร้ายจริงนะ มันเป็นความผิดของฉันเหมือนกัน ขนาดฉันอยู่ใกล้ๆ ยังไม่รู้ว่านายแย่ลงเลย

แต่พวกเขาแค่บอกว่ามันเป็นการตรวจสุขภาพเฉยๆ นี่นานายคงได้กลับมาในเร็วๆ นี้แหละ

อีกอย่าง ฉันจะทำทุกอย่างที่นายอยากให้ทำนั่นแหละ

สำหรับตอนนี้ สำหรับสิ่งที่นายขอไว้...

ฉันรวบรวมสมาชิกของ fine ยูนิตที่พวกเราสร้างขึ้นไว้แล้วล่ะ

ฉันทำเอกสารเรียบร้อยแล้วด้วย อยากจะดูรึเปล่าล่ะ?


เอย์จิ : แน่นอน ไหนขอผมดูหน่อย

...หืมม ประสิทธิภาพไอดอลของยูเมะโนะซากิตกลงไปเยอะเลย เพราะงั้นพวกเราคงต้องทำเองแล้วล่ะ

ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเราจะต้องแฝงพวกที่มีศักยภาพดีๆ แล้วสิ

อืมม Backgammon... ผมว่าตอนนี่นาาจะกลับมาเป็น Chess แล้ว ผมกำลังคิดว่าพวกเราอาจจะดึงตัวใครจากยูนิตนั้นมาได้

ผมหวังว่าจะมีโชคดีอยู่ที่นั่น แต่ว่าเท่าที่ผมเคยเห็นมาในเอกสาร ไม่มีใครมี่ใช้ประโยชน์ได้เลย บวกกับว่าถ้าผมพยายามจะดึงใครออกมาจากกลุ่มของเขาล่ะก็ ทสึกินากะคุงคงจะเริ่มเกลียดผมขึ้นมาแน่ๆ

หืม... มาลองดูคนตรงนั้นกันดีกว่า

ผมจะทำเรื่องส่วนของการเชิญกับเจรจาเอง ผมจะต้องทำให้พวกเราเอาชัยชนะมาให้ได้ แผนของพวกเรามันจัดการเสร็จแล้ว แล้วมันก็จะไม่น่าเศร้าเกินไป ถ้าเกิดพวกเราเทมันทิ้งกลางทาง

ลองเอารายชื่อของสองคนนี้ไว้พิจารณากันเถอะ ผมต้องการพลังของพวกเขา แต่อาจจะยากที่จะต้องรับมือหน่อยล่ะ


ทสึมุกิ : ใครน่ะอ๊ะ นางิสะคุงกับฮิโยริคุง....?

ฉันติดต่อกับนางิสะคุงอยู่ เพราะงั้นก็น่าจะพอเอาตัวมาได้

ส่วนสำหรับฮิโยริคุง— นายช่วยลองได้มั้ย เอย์จิคุงเขาดูเหมือนจะรับมือยากพอควรเลย


เอย์จิ : เขาเป็นบริษัทใหญ่ที่มีอิทธิพลต่อเศรษฐกิจโลกเลยล่ะ แต่ในสถานะนั้น ครอบครัวของเขาก็พอกับผมล่ะ

...แล้วก็เพราะแบบนั้น  มันก็เลยมีปีญหสเป็นคู่แข่งทสงธุรกิจของพวกเราทั้งคู่ ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ เลยลาะก็ ผมไม่อยากจะมีส่วนยุ่งเกี่ยวกับเขาหรอก

โดยส่วนตัว เขาไม่ใช่คนประเภทที่ผมจะสามารถเข้ากันได้เลยล่ะ พวกเรารู้สึกขยะแขยงกันและกันมากๆ เลย เพราะงั้นถ้าเกิดผมมองว่าเขาผิดล่ะก็ มะนจะรู้สึกว่าผมดูเป็นฝ่ายถูก ผมรู้สึกไม่โอเคเลยแหละ

แต่ถ้าเกิดมามองในแง่ความสามารถของเขาล่ะก็ มันอยู่ในเกณฑ์ที่พวกเราจะรับไว้พิจารณาได้เลยล่ะ เพราะงั้นผมอาจจะลองพยายามคุยกับเขาดูแล้วกัน...

ถึงผมจะไม่คิดว่าเขาจะฟังที่ผมจะพูดเลยก็เถอะนะ

แต่ยังไงก็เถอะ ลองเก็บไว้คิดก่อนดีกว่า

ในตอนนี้ พวกเราไม่มีเวลามาคิดเรื่องยากๆ สำหรับคนพวกนี้หรอก มันจะไม่เป็นไรถ้าเกิดพวกเราเลือกตนทีาอยู่ในกำมืออยู่แล้ว แล้วสามารถดึงพลังออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่

ยิ่งกว่านั้น ผมอยากจะนึกถึงพวกโกคิจิน (ห้าประหลาด) ผมจะได้คอนเฟิร์มรายชื่อซักที


ทสึมุกิ : โอ๊ะ เหมือนแผนจะเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้วล่ะ มันใช้เวลาพอสมควรเลยพวกเรายังเลือกสมาชิกห้าคนไม่ได้เลยนะ


เอย์จิ : ใช่ เริ่มจากสามคนแรกก่อน ซาคุมะ เรย์ ชินไค คานาตะ และฮิบิกิ วาตารุ...

ต่อจากนั้นก็จะเป็นอิทสึกิ ชู จาก Valkyrie แล้วสุดท้ายก็ปีหนึ่ง ซากาซากิ นัตสึเมะ แล้วก็จะมีห้าคน ถ้าผมพูดถูกน่ะนะ


ทสึมุกิ : โอ๊ะ นัตสึเมะจะ... นัตสึเมะคุง กำลังจะกลายเป็นหนึ่งในโกคิจินงั้นเหรอ หืม


เอย์จิ : มันถือว่าเป็นทางเลือกที่ผิดนะรู้มั้ยถ้าเกิดพิจารณาเรื่องนิสัยแล้วล่ะก็ ไม่มีใครหรอก นอกจากเขา

พวกเขามีพลังมากมายในตัว ผมรู้สึกได้เลย แต่ว่าพวกเขายังไม่อยู่ที่นี่เนี่ยสิ

เกี่ยวกับปีหนึ่งเพียงคนเดียว ซากาซากิคุงเป็นคนเดียวที่สามารถยืนอยู่ในฐานะนักเรียนประหลาดได้โดยไม่น้อยหน้าใคร

มันรู้สึกเหมือนว่าอยู่ในช่วงของการกำจัด เพราะงั้นผมเลยไม่มั่นใจ แต่เขาจะเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มประหลาด


ทสึมุกิ : งั้นเหรองั้นผมจะลองไปบอกนัตสึเมะคุงให้เร็วที่สดเท่าที่ผมจะทำได้

ดขาเป็นหนึ่งในคนที่ถูกเลือกจากคนทั้งโรงเรียน มันต้องฉลองกันซักหน่อย


เอย์จิ : หืมอ๊ะ ใช่แล้ว นั่นแหละคือสิ่งที่พยายามจะบอก...

เธอช่วยผมมาพอสมควรแล้ว บางทีผมก็นาาจะค่อยๆ ให้เธอดูแผนของผมในเร็วๆ นี้ล่ะ


ทสึมุกิ : หืมนี่เป็นประเภทหนึ่งของปีศาจงั้นเหรอ... เอย์จิคุง?


เอย์จิ : ฮึฮึ ไม่ว่าจะเป็นปีศาจหรือว่าฝ่ายที่ถูกต้อง ประวัติศาสตร์แห่งอนาคตจะถูกตัดสินเพื่อพวกเรา ผมไม่ต้องการให้ชื่อของผมถูกจารึกว่าเป็นกบฏผู้ตกอับหรอกนะ เพราะงั้นพวกเราต้องชนะ

มาทำให้ดีที่สุดกันเถอะ ทสึมุกิ พวกเราจะปิดม่านการแสดงของอาณาจักรเก่าๆ นี้ แล้วเริ่มต้นตำนานเรื่องใหม่กันซักที


ทสึมุกิ : ฮึฮึ ฉันไม่ค่อยเข้าใจหรอก แต่ว่า พักผ่อนก่อนเถอะนะ... สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าอนาคตอันไกล มันก็คืออาการของนายในตอนนี้นะ เอย์จิคุง


เอย์จิ : ยึดติดกับโลกจริงๆ นะ ทสึมุกิ


ทสึมุกิ : มากกว่า 99% ของโลกถูกสร้างด้วยความเป็นจริงนะ

และที่ต่ำยิ่งกว่า 1% ก็คือสมบัติอันล้ำค่าที่แสนล้ำค่า แต่ฉันว่ามันคงน่าเสียดายนิดหน่อยที่จะแลกมาด้วยการทิ้งทุกอย่างไป


เอย์จิ : งั้นพวกเราก็คงมีเหตุผลที่ต่างกันออกไป นั่นคือสาเหตุว่าทำไมเธอถึงเป็นฝ่ายได้เปรียบ มันคงไม่มีผลอะไรเท่าไหร่หากเราเลือกคนที่เหมาะสม...

ถ้าเกิดเธอคิดอะไรได้ล่ะก็ ผมก็อยากให้เธอพูดมาออกมาได้เลยโดยไม่ลังเล


ทสึมุกิ : โอเคไว้ใจฉันได้เลยแม้ว่าฉันจะเป็นคนที่ไม่เคยอ่านสถานการณ์ออกเลยก็ตาม... 


เอย์จิ : มันไม่ใช่อะไรที่น่าภูมิใจเลยรึเปล่าเนี่ย ทสึมุกิ?

=============================================

รู้สึกหนาว... อีกไม่กี่ัวันก็จะครบรอบวันที่อีเว้นท์นี้เข้าเกมกันแล้วนะคะ เป็นอีเว้นท์ที่บาปบ๊าปบาป 5555 ว่าแล้วก็ได้แต่ภาวนาให้เลโอไม่มีเรื่งให้เจ็บไปมากกว่าตอนนี้ 5555

อยากถามคนที่เข้ามาอ่านกัน ว่าอยากให้แปล Lionheart มั้ยคะ จริงๆ ก็มีแพลนจะแปลอยู่ หาคนเจ็บตับไปด้วยกันค่ะ ฮาา

ลังเลกับการเขียน Gokijin เอามากๆ เลยค่ะ ภาษาไทยมันตะหงิดๆ 55555


วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Reminiscence * Monochrome Checkmate - Monologue


Checkmate monologue
Location: ที่นั่งริมสวน


อิซึมิ : ……


เอย์จิ : ฮึฮึ เมื่อเธอไม่สามารถหาทางแก้ปัญหาได้ อย่างร้อยที่สุดก็คือจะต้องเปลี่ยนสถานะของตนเอง

หลังจากที่คุยกับเธอ ผมก็นึกได้ ทั้งผมและเธอ ต่างก็เป็นคนมี่ใจแคบเหมือนกัน ผมคงเล่าให้เธอฟังได้นิดหน่อยเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้

พระเจ้าไม่ได้มอบพรสวรรค์ให้พวกเรา แต่พวกเราจะต้องยืนขึ้น เพื่อต่อสู้กับเหล่าอัจฉริยะที่น่ากลัว

ผมทั้งเห็นใจ และเป็นห่วง ผมเชื่อว่าพวกเราจะสามารถช่วยกันและกันได้

นี่คือสิ่งที่ผมคิดจากใจจริง เซนะคุง

ยังไงพวกเราก็เป็นเพื่อนร่วมห้องกัน หวังว่าพวกเราจะเข้ากันได้ดีนะ


อิซึมิ : ...ช่วยเงียบๆ ซักพักได้มั้ย ฉันกำลังคิดตาเดินของตัวเองอยู่ เพราะงั้นช่วยอยู่เงียบๆ ทีสิ?

อะไร ตอนนี้ฉันกำลังพยายามคิดว่าจะออกจากสถานการณ์แบบนี้ยังไงอยู่ นายก็เลยพยายามพูดอะไรไร้สาระใช่มั้ย หืม?

เจ้าเล่ห์นี่ ใช่มั้ยล่ะ?


เอย์จิ : เธอจะคิดแบบนั้นก็ตามสบายเถอะ แต่จากที่เธอพูดแบบนั้นไม่ได้หมายความว่าเธอกำลังขุดหลุมฝังตัวเองหรอกเหรอ?

มันน่าเบื่อมากเลยแหละ ถ้าแมทช์มันอยู่ในช่วงที่ต้องนิ่งๆ แบบนี้น่ะนะ ผมควรจะตั้งเวลาไว้

ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เดิมพันอะไรไว้ใเกมนี้ แล้วพวกเราก็ไม่ได้เคร่งกฏหรืออะไรมากมาย แต่ว่า...

ผมก็ไม่อยากจะแพ้อยู่ดี ผมคงจะต้องคิดเกี่ยวกับเกมนี้ให้มากกว่านี้หน่อยแล้วล่ะ

ก็นะ ผมเป็นแค่มนุษย์ ไม่ใช่พระเจ้า ไม่ใช่ว่าผมจะสามารถทำนายอนาคตได้ซักหน่อย


อิซึมิ : ฉันบอกให้นายหุบปากไง


เอย์จิ : เสียงของผมมันก็เหมือนกับเสียงนกน้อยร้องอยู่แล้วนี่นา?

เหมือนกับที่เธอรู้... อีเว้นท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของยูเมะโนะซากิเคยรู้สึกแล้วนี่นา มันคือ DDD

เสียงหนวกหูรอบด้านจากผู้คน เสียงดนตรี และการซ้อมสำหรับการแสดง และเสียงฮัมเพลงของทุกคนจนเกิดความหนวกหู

ยิ่งกว่านั้น ถ้าเสียงของเธอไม่ดังพอ ก็จะคุยไม่รู้เรื่องเหมือนกัน แต่มันก็ไม่เป็นไรแหละ เพราะว่าพวกเธอมีแรงเยอะนี่นา...

หมายความว่ามันมีค่ามาก ในช่วงต้นของ DDD และการสาดส่องไฟไปที่ตัวนดกเรียนทุกคนในโรงเรียน

มันเป็นเสียงกระวีกระวาดที่คงนึกภาพแทบไม่ออกมาเป็นปีๆ แล้วล่ะนะ

ในตอนนั้น Knights ก็เป็นส่วนนึงของ DDD ด้วยนี่นา?

มันโอเคสำหรับเซนะคุงผู้กำลังหัดรักที่จะไปฆ่าเวลาในที่แบบนั้นรึเปล่าล่ะมันดูไม่เหมือนเธอเลยนะ

เก็บบทสนทนานี้กันเถอะ ทั้งเรื่องที่พวกเราเถียงกันด้วย... ผมเชื่อว่าพวกเราอาจจะทำให้ดีที่สุด เพื่อที่ครั้งหน้าจะได้ไม่ล้มเหลวล่ะนะ


อิซึมิ : ...อย่ายั่วโมโหฉัน บอกแล้วไง ว่าฉันคิดอยู่ ยังไงฉันก็ยังปล่อยเรื่อง DDD

Knights ในตอนนี้น่ะ เป็นแค่เปลือกว่างๆ ที่ไม่เหลือร่องรอยอะไรไว้ในช่วงที่ยังเป็นยุคทอง

การที่จะไปยืนอยู่บนสเตจน่ะ มันคงจะน่าอาย แถมยังไม่น่าเชื่อถือ ใช่มั้ยล่ะ?

ถึงแม้จะรวมกับสมาชิกหน้าใหม่แล้ว พวกเราก็ยังมีกันอยู่แค่สี่คนอยู่ดีล่ะนะ?


เอย์จิ : อ๊ะ ใช่แล้ว จากตระกูลสึโอว สึคาสะคุงเข้ามาร่วมกับ Knights สินะ น่าสงสัยจริง ทำไมเขาถึงเลือกยูนิตนี้กันนะ

ยังไงก็เถอะ ถ้าผมจำไม่ผิด ไม่ใช่ว่า Knights มีกันห้าคนหรอกเหรอ?

เธอควรจะรวมทสึกินากะคุงเข้าไปด้วยนี่นา เพราะว่าในตอนนี้ เขาก็ยังไม่ได้ลาออกจากโรงเรียนไปไม่ใช่เหรอ?


อิซึมิ : ...เขาสู้ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว


เอย์จิ : ผมก็คิดอย่างนั้นล่ะ แม้ว่าจะได้ไปเจอเขาแค่ครั้งเดียว แต่ผมก็รู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ ล่ะนะ

นั่นไม่ใช่ทสึกินากะคุงที่ผมหลงรัก ถ้าจะพูดให้ถูก อัจฉริยะคนนั้นถูกทำลายลงจนแหลกเป็นเสี่ยงๆ

น่าอับอายจริงๆ ยูนิตขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนส่วนมากของโรงเรียนอยู่...

Chess คือต้นกำเนิดของพวกเธอ— เป็นประวัติศาตร์อันบาวนาน ที่เข้าใกล้กับความตาย


อิซึมิ : นายพูดเหมือนกับว่ามันเป็นเรื่องของคนอื่น แล้วคิดว่าความผิดของเรื่องราวทั้งหมดมันเป็นของใครกันล่?


เอย์จิ : เธอกำลังพยายามจะบอกว่ามันเป็นเพราะผมเหรอโหดร้ายจังนะ ในเมื่อเธอเป็นคนที่ไป และทำลายตัวเอง

แต่ก็นะ มันก็เป็นแบบที่ผมหวังเอาไว้ล่ะ

Knights... Chess ได้หลงลืมจุดประสงค์ และถูกกัดกิน ทำให้เน่าเฟะมาจากภายใน

มันเป็นรูปภาพที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขยะๆ กับมรดกที่เก่าแก่ ประเพณีที่มีแต่ความคดโกง บางอย่างที่ขอร้องอ้อนวอนผมให้ทำลายมันไปจากยูเมะโนะซากิ มันไม่น่าแปลกใจเลย ถ้าเกิดสิ่งของแบบนั้นจะถูกทำลายลงเพราะกาลเวลา

เหล่าผู้คนที่ถูกเรียกว่าอัศวิน ได้ถูกฝังและตายลงในความมืดของประวัติศาสตร์

สุดท้ายก็จะกลายเป็นเพียงแค่ตำนาน และชื่อที่ทิ้งเอาไว้... ซักวัน พวกเธอก็จะได้กลายเป็นแบบนี้เหมือนกัน...

ได้รับผลประโยชน์เพียงเพราะแค่ว่าเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมัน แล้วก็คิดว่าตัวเองสำคัญสำหรับใครๆ...

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง เธอแค่ต้องการความสำราญและความขี้เกียจก็เท่านั้น

มันก็เหมือนกับน้ำอุ่น หนองที่จะแพร่กระจายให้ทุกอย่างในยูเมะโนะซากิเน่าเฟะตาม สถานที่ที่พวกขี้เกียจสันหลังยาวมาวิ่งเล่นกัน

นั่นแหละ คือสิ่งที่ Chess เป็น แน่นอนว่าสุดท้ายก็ตายลงเหมือนกับ Sodom และ Gomorra


อิซึมิ : พยายามจะบอกว่าตัวเองเป็นพระเจ้าของที่นี่อยู่รึไง?


เอย์จิ : ถ้าจะให้ถูก ผมเป็นนางฟ้า ทสึกินากะคเรียกผมแบบนั้น ผมคิดว่าล่ะนะ...

คอยเยียวยาวบาดแผล กำจัดความสกปรกและผิดพลาด ตัดสินคนบาป พาโลกไปสู่ยุคใหม่ มันคือบทบาทของผม เป็นหน้าที่ที่ผมแบกรับเอาไว้

และเพราะความคิดแบบนั้น ผมทำความผิดโง่ๆ สูญเสียเพื่อนพ้อง เสียความเป็นตนเอง มีเพียงแค่ความสับสน....

ผมชำระล้างตัวเองด้วยเลือด ย้อมปีกให้กลายเป็นสีดำ และตกลงมาจากสวรรค์


อิซึมิ : ต่อให้นายจะพยายามพูดให้เหมือนกับบทกวีมากแค่ไหน มันก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับความรู้สึกของฉันต่อเลโอคุงเลยแม้แต่น้อย


เอย์จิ : ผมแค่อยากจะลองพูดมันดูน่ะ

เรื่องราวของอัศวินมักจะถูกแต่งขึ้นมาให้เหมือนกับบทกวีที่งดงามใช่มั้ยล่ะ 
เซนะคุง?

ถ้าเกิดเธอไม่ขยับตัวหมากล่ะก็ ผมจะเพิ่มความน่าตื่นเต้นโดยหารพูดเรื่องไร้สาระต่อไปเรื่อยๆ นะ

...เธอจะไม่รีบซักหน่อยเหรอ เซนะคุง?

พวกเราอยู่ปีสามแล้วนะ พวกเราไม่ทีเวลามากขนาดนั้นแล้ว โดยเฉพาะผม...

พระเจ้ามอบเกมที่แข่งขันกับเวลาให่กับพวกเรา— ผมก็อยากจะมอบความสำคัญให้มัน เพื่อให้เป็นประโยชน์มากที่สุดน่ะนะ

ถ้าเกิดพวกเราไม่ล่ะก็ ความพ่ายแพ้ที่น่าผิดหวังมันก็จะวนเวียนไปอย่างไม่จบไม่สิ้น

=========================

กลับมาที่ปัจจุบันนะคะ เป็นบทที่ปวดตับเหลือเกิน T v T

เอาจริงๆ เป็นเพราะสตอรี่นี้นี่แหละ ที่ทำให้เรารู้สึกชอบเซนะขึ้นมา 5555

สองคนนี้ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะจริงๆ ค่ะ T T อ่านแล้วก็สงสาร

เอย์จิอีสเดอะบอส-----

Reminiscence * Monochrome Checkmate - Killer's Anthem 8


Killers anthem 8

Location: โรงพยาบาล (ห้องผู้ป่วยเดี่ยว)

เลโอ : ♪~~
วะฮ่าฮ่า! เป็นไงล่ะ? เหมือนว่าฉันจะเริ่มเล่นได้ดีแล้วนะ! ปกติฉันก็ใช้พวกอุปกรณ์ดิจิตอลบ่อยกว่าอยู่หรอก แต่ว่าเครื่องดนตรีเองก็น่าสนใจเหมือนกัน~♪

อ๊าา พอฟังไปเรื่อยๆ แล้วมันทำให้ฉันรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย!


เอย์จิ : ผมดีใจนะ ถ้าเกิดเธอสนุกน่ะ...

ทสึกินากะคุงใช่มั้ยมันคุ้มค่าแล้วล่ะที่ผมให้คนใช้ของผมเอามันมาไว้ที่นี่ แต่ถ้าให้ผมแบกมาเอง หลังผมต้องหักแน่ๆ


เลโอ : วะฮ่าฮ่าฉันนี่แหละ ที่เป็นคนทำอะไรบางอย่างหักอ๊าา มันท้อนะเนี่ย ที่ฉันเล่นได้ด้วยแค่มือเดียวมันหายเร็วกว่านี้ไม่ได้เหรอ~?

แต่ดูเหมือนว่าตอนแรกฉันขึ้นเร็วจนพวกหมอตกใจก็เถอะ แต่พวกเขาก็ยังบอกอยู่ดีว่าต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์จนกว่ามันจะหายสนิท... จนกว่าจะถึงตอนนั้น ฉันก็ต้องทนความน่ารำคาญนี้ไปก่อนล่ะ

อ๊าา นี่มันน่ารำคาญชะมัดฉันก็ได้ที่ฉันอยากได้แล้ว แต่มันทำให้ฉันรู้สึกแย่กว่าเดิเปียโนมันต้องใช้ทั้งร่างกายเล่ การที่เล่นด้วยมือเดียวนี่มันทำให่เละเทะไปหมดเลย!


เอย์จิ : เปียโนตัวนั้นเป็นของส่วนตัวของคนไข้คนอื่นนะ... เพราะงั้นช่วยถนอมๆ ด้วยล่ะ เข้าใจมั้ยผมคิดว่าเธอไม่ควรระบายอารมณ์ใส่โดยการกระแทกคีย์แบบนั้นนะ

ฮึฮึ นี่เป็นห้องส่วนตัวแบบเก็บเสียง ดังนั้น เราก็ไม่ต้องห่วงเลยว่าจะเสียงดังรบกวนผู้ป่วยคนอื่น

ผมเลือกห้องนี้เพราะว่ามันอยู่ใกล้กับห้องเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เผื่อว่าอาการของผมมันจะแย่ลงขึ้นมา

ผมดีใจนะ ถ้าเกิดมันทำให้สะดวก หวังว่าจะเป็นของขวัญที่ดีสำหรับเธอนะ เพื่อนใหม่ของผม


เลโอ : โอ๊ะ พวกเราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอช่างมันเถอะ ฝากตัวด้วยนะ 


เอย์จิ : อื้อ ยังไงก็เถอะ... ถ้าให้ผมช่วยเล่นอีกมือให้เอามั้?

ผมได้คุยกับเจ้าของเปียโนบ้าง เขาก็เลยสอนผมมานิดหน่อย

มาลองเล่นเพลงแบบโฟร์แฮนด์กันเถอะ ถ้าเกิดเกิดเธอไม่รังเกียจน่ะนะ 


เลโอ : ถ้าเกิดได้น่ะนะมาสิ มาเล่นแล้วก็เพลิดเพลินไปกับท่วงทำนองกันเถอะ 


เอย์จิ : โอเค ...แต่ก่อนอื่น ทสึกินากะคุง เธอกำลังเล่นเพลงอะไรอยู่เหรอผมก็เคยฟังอยู่หรอก แต่ผมไม่รู้ชื่อเรียกของมันน่ะ?


เลโอ : มันคือ “Killer’s Anthem”


เอย์จิ : โอ๊ะ จาก "Drunken Angel" ใช่มั้ยผมชอบอากิระ คุโรซาวะเหมือนกัน เขาไม่เคยใช้อะไรสูญเปล่าเลย ตอนเขาแต่งมัน


เลโอ : วะฮ่าฮ่าโอ๊ะ ใช่แล้ว นายคือเทนโชวอิน เพราะงั้นถ้าเกิดชื่อสั้นๆ ของนายก็จะเป็นเทนชิฉันขอเรียกนายว่าเทนชิได้มั้ย?


เอย์จิ : หืมก็ได้อยู่หรอก ถ้าเกิดเธอจะตั้งชื่อเล่นใหม่ให้ผมน่ะนะ...

แต่ว่าในฐานะเด็กผู้ชายม.ปลาย ถูกเรียกด้วยชื่อน่ารักๆ อย่างเทนชิมันทำให้รู้สึกเขินนิดหน่อยน่ะ

บางทีผมก็อาจจะตั้งชื่อเล่นแปลกๆ ให้เธอกลับด้วยนะ....?


เลโอ : หื~? แต่ว่าชูบอกฉันนะว่าในไบเบิลน่ะ พระเจ้ากับนางฟ้าจริงๆ ก็โหดร้ายยิ่งกว่าอสูรซะอีก!

ไม่ได้ถูกเอ็นดูหรือเป็นที่รักเหมือนกับที่ทุกคนคิดไว้หรอกนะ เห็นมั้ย


เอย์จิ : ชูหรือว่าจะหมายถึง Valkyrie... ชู อิทสึกิคุงแปลกใจนะเนี่ย ดูเหมือนว่าเธอจะสนิทกับคนสำคัญๆ พอสมควรเลยนี่ หืม?


เลโอ : ใช่ เขานั่นแหละเขาเป็นคนเดียวที่สามารถคุยเรื่องศิลปะกับฉันได้!

มันมักจะจบด้วยการเถียงกันเรื่องเกี่ยวกับศิลปะทุกครั้ง แต่ว่าพวกเราก็ได้คุยกันเยอะเลยแหละ!

บางครั้งฉันยังเคยขอให้เขาช่วยดีไซน์ชุดคอสตูมสำหรับไลฟ์ให้เลย!

ฉันรู้จักกับคนอีกคนที่รับทำชุดในราคาถูกๆ ให้ได้ ฉันก็เลยขอให้เขาช่วยทำให้ทุกคนล่ะ!

ฉลาดใช่มั้ยล่ะ~? ฮึฮึ ฉันเก่งเรื่องพวกนี้อยู่แล้วล่ะ


เอย์จิ : ……


เลโอ : ...เทนชิเฮ้ เป็นอะไรไปน่ะ?

นายดูไม่ดีเลยนะ รู้สึกไม่ดีรึเปล่าน่ะ?

-รอเดี๋ยวนะฉันจะไปตามหมอให้!


เอย์จิ : ...ไม่เป็นไร แค่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยเพราะว่าตื่นเต้นน่ะ

เป็นไปได้ ผมไม่อยากให้เธอเรียกหมอมาให้หรอกนะ ผมไม่อยากจะใช้เวลาอยู่แต่ในโรงพยาบาลนานกว่านี้หรอก เหมือนว่าเธอจะเกลียดโรงพยาบาลเหมือนกันใช่มั้ย เพราะงั้นก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกผมนะ

ผมไม่อยากจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ใน "คุกปลอดเชื้อแบบนี้อีกแล้วล่ะ


เลโอ : ……


เอย์จิ : ฮึฮึ สุขภาพของผมมันแย่มาตั้งแต่เกิดแล้วละะ ผมแทบจะใช้เวลาส่วนมากหมดไปกับการอยู่แต่ในโรงพยาบาล นั่นคือสาเหตุว่าทำไมผมถึงได้อยากออกไปเห็นโลกภายนอกนัก

ผมอยากจะจบชีวิตลงภายใต้ท้องฟ้าสีครามข้างนอกหน้าต่าง ผมพยายามมาก เพื่อที่จะได้พบกับสิ่งนั้น ทำแม้แต่คำโกหกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร ผมแข็งแรงดี

เพราะว่าถ้าผมไม่ทำ ผมก็จะไม่ได้ทำแม้แต่หายใจอยู่ในโลกภายนอก

ผมเพิ่งจะถูกลากตัวกลับมาที่โรงพยาบาลเอง ทำไม่ได้แม้แต่ก้าวออกไปข้างหน้ ทำไม่ได้แม้แต่สิ่งที่คนทั่วไปเขาทำได้

ผมเบื่อมันมากเกินทนแล้วล่ะ... ทสึกินากะคุง


เลโอ : งั้นเหรอ อืม ฉันเข้าใจล่ะ นายเองก็เป็นผู้ชาย และแน่นอนว่านายต้องการที่จะแข็งแรง


เอย์จิ : ใช่ ...ผมอยากจะแข็งแรงมาตลอด


เลโอ : โอเค เพราะงั้น ฉันก็จะขอเชื่อ "คำโกหกที่เป็นไปไม่ได้ของนาย เหมือนกัน

ฉันเข้าใจว่านายรู้สึกยังไง เพราะงั้น ฉันก็จะไม่เรียกหมอ ฉันเชื่อว่านายแข็งแรงจริงๆ

ฉันจะไม่ทำร้ายนายโดยการพูดว่านายมันขี้โรคหรืออ่อนแอ ฉันสัญญา

แต่ดูเหมือนว่านายคงจะเจ็บปวดน่าดู เพราะงั้น อย่างน้อยให้ฉันได้ดูแลนายเถอะ เดี๋ยวจะเอาน้ำมาให้นะ นายเองก็ไปพักเถอะ

ถึงแม้ว่าฉันจะแย่ไปหมดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องแต่งเพลง ฉันก็สามารถทำได้เท่านี้ แหละ

ตอนที่น้องสาวของฉันป่วย ฉันก็คอยเฝ้าอยู่เสมอเลย เพราะงั้น ให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ มันไม่ได้น่าอายหรืออะไร แล้วฉันก็ไม่ได้ดูถูกนายด้วย

ก็แค่เชื่อว่าพวกเราสามารถเป็นเพื่อนกันได้ เรารู้สึกเหมือนกัน ดังนั้น ซักวันก็คงได้เล่นเพลงคู่กันซักเพลงล่ะนะ

ฮึฮึ รีบดีขึ้นแล้วกลับมาเล่นคู่กับฉันนะ 


เอย์จิ : หมายถึง “Killer’s Anthem”ใช่มั้ยฟังดูน่าสนุกนะ... 

========================

ในที่สุดก็มีเลโอกลับมาให้ป้าๆ ชื่นใจ คิดถึงมากๆ เลย-- /ชูกุหลาบ

เพลง Killer's Anthem เพราะจริงๆ นะคะ 5555 ว่างๆ ลองไปหาฟังกันได้ แต่หายากหน่อย 5555 เราเคยไปเจอลิ้งค์ในวิกิอันสึตะของต่างชาติ ลองไปหากันได้นะคะ!

Cacophony◆Whirling Horror Night Halloween - HOLLOW WIN 8

  ผู้แปล : Grazioco สถานที่ : ห้องเก็บเสียงสำหรับซ้อม มาโคโตะ : อืม แต่ว่าช่วงนี้น่ะ ผมรู้สึกว่าต่อให้พวกเราพยายามจะกั๊กข้อมูลยังไง มั...