วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

Concerto - Epilogue 1

Concerto Epilogue 1
สถานที่ : ฮอลล์คอนเสิร์ต

เลโอ : ........


มาดาระ : ขอบคุณที่รอนะ เลโอซางงงงงงงง! หม่าม๊าไม่อยู่เหงารึเปล่า?


เลโอ ​: อ๊ะ หม่าม๊า... เฮ้ ฉันเคยบอกนายหลายรอบแล้วนะ ว่าก่อนจะทำอะไรช่วยอธิบายก่อนซะบ้างน่ะ

ปล่อยฉันไว้กับคนที่ฉันไม่รู้จักแบบนี้มันเหงามากเลยนะ


หม่าม๊า : ฮ่าฮ่าฮ่า! ขอโทษที! แต่ว่าไม่ใช่ว่าระหว่างที่ท่องเที่ยวไปรอบโลกโดยที่ไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย ไม่ใช่ว่ามันสอนให้นายเข้าใจการเข้าหามนุษย์ด้วยกันเลยเหรอ?

แม้ว่านายจะไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ว่ามนุษย์ก็เป็นพวกพ้องเดียวกัน ไม่ใช่ศัตรูหรอก แต่ก็ไม่ใช่ว่านายจะเชื่อใจพวกเขาได้เต็มร้อยเช่นกัน แต่ว่า...

พวกเขาเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกันกับพวกเรา ที่มีสมองเหมือนกัน และพวกเราก็สร้างความรู้สึกต่างๆ ได้ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า

พวกเขาไม่ใช่พวกสิ่งมีชีวิตแปลกปลอมอย่างเอเลี่ยน ถ้าเกิดนายลองคุยกับพวกเขาดู นายจะเข้าใจ

ถ้าเกิดนายยิ้ม สัมผัสพวกเขาอย่างอ่อนโยน แล้วก็ร้องเพลงไปด้วยกัน นายจะกลายเป็นเพื่อนกับพวกเขา ไม่ใช่ว่ามันเป็นแบบนั้นมาเสมอหรอกเหรอ?

ดนตรีน่ะ มีอยู่ทุกที่ พวกเราสามารถเข้าใจกันและกันได้ ผ่าน "สิ่งนั้น"


เลโอ : นั่นมันสำหรับนาย หม่าม๊า ส่วนฉันเจอช่วงเวลาที่เลวร้ายมาจริงๆ นะ~...

ฉันโดนส่งออกไปต่างประเทศโดยที่ไม่ได้เตรียมใจ ทั้งๆ ที่ฉันไม่เคยออกจากญี่ปุ่นมาก่อนเลย

ฉันไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในอันตรายเลยเพราะว่าคนที่เป็นเหมือนบอร์ดี้การ์ดที่หม่าม๊าหามาให้ แต่ว่า...

ฉันสูญเสียไปแล้วล่ะ ฉันโดนพิษที่ทำให้ฉันคุยกับใครไม่ได้อีกแล้ว

ฉันดีใจมากเลยนะ ที่ได้พบกับเอเลี่ยนตัวนั้น เอเลี่ยนจากทางเหนือที่คุยญี่ปุ่นกับฉันได้


มาดาระ : เอเลี่ยน? อา จริงสิ เลโอซังหายไปช่วงนึง แล้วก็บอกว่า "ถูกเอเลี่ยนลักพาตัวไป​!" งั้นสินะ


เลโอ : อืม ฉันหลงทาง หายไปในที่ที่เหมือนกับค่ายทหาร แล้วฉันก็โดนจับได้ ฉันคิดแล้วล่ะว่าฉันจะต้องตายแน่ๆ...

แต่ว่าเอเลี่ยนที่น่ารักได้ช่วยฉันเอาไว้

เฮ้อ ไปต่างประเทศนี่มันลำบากจริงๆ~

ตอนแรกที่ฉันกลับมาที่ญี่ปุ่นนะ รูกะตันทักทายฉันด้วยภาษาญี่ปุ่นว่า "ยินดีต้อนรับกับมานะ พี่จ๋า" แล้วเธอก็ซื้อชากับข้าวปั้นมาให้ ฉันกล้าพูดเลยว่าฉันหยุดน้ำตาในตอนนั้นไม่ได้เลยจริงๆ


มาดาระ : ฮ่าฮ่าฮ่า! ไม่ใช่ว่าญี่ปุ่นเป็นเหมือนกับสวรรค์บนเกาะเลยไม่ใช่รึไง? ก็ยังดีนะ ที่นายยังพอจะสื่อสารกับคนอื่นได้อยู่บ้าง!

ตอนนี้นายเข้าใจรึยังล่ะว่าการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มันน่ายินดีมากแค่ไหน?

หรือว่านายยังคงอยากไปอยู่ในที่ไกลแสนไกลอยู่อีก?

ถ้าเกิดเป็นแบบนั้นล่ะก็ ฉันจะไม่ห้ามนานหรอก มันคือชีวิตของนาย เลโอซัง นายมีสิทธิ์เลือกว่าจะใช้ชีวิตยังไง


เลโอ : อือ~ ฉันคิดอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่าโลกมันกว้างแค่ไหน ฉันรู้สึกว่าตัวเองมันโง่ที่มัวแต่เศร้าโศกไปภายในโลกของโลกเรียนเล็กๆ ในประเทศเล็กๆ อย่างญี่ปุ่น

งานที่นายแนะนำให้ฉัน ที่บริษัทดนตรีของต่างประเทศมันราบรื่นดีมากเลย ฉันสนุกมากเลยล่ะ

มันดีแน่ๆ ถ้าเกิดฉันเลือกที่จะทำงานประจำที่นั่นไปเลย

แล้วใครบางคนอย่างเซนะ ที่จะเป็นไอดอลที่ดีได้ จะได้ร้องเพลงที่ฉันแต่งโดยไม่รู้ว่าฉันเป็นคนแต่งเพลงนั้นออกมา

นั่นคงจะพอสำหรับฉันแล้วล่ะ มันคงจะเป็นโชคที่ดีพอสำหรับคนที่ยอมแพ้จากการหลีกหนีความตายไปอย่างฉันแล้วล่ะ


มาดาระ : ฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันคิดว่าคงอยากอิซึมิซังคงรู้ได้ทันทีเลยล่ะว่าเพลงนั้นเลโอซังเป็นคนแต่งขึ้นมา

มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่จะ "เข้าใจได้โดยที่ไม่ได้พูดอะไร" นายควรจะบอกเขาว่าเกิดอะไรขึ้นนะ

เขาเป็นห่วงนายมากเลย แล้วก็คอยด่าทอตัวเอง "เป็นเพราะฉันเอง เลโอคุงถึงได้เสียความเป็นตัวเองไป"

เอย์จิซังเองก็ซ่อนความเป็นห่วงของตัวเองไว้ แต่ดูเหมือนว่าเขาเองก็เป็นมีปัญหาอยู่เหมือนกัน


เลโอ ​: ทำไมทุกคนถึงได้ตัดสินใจเอาเองว่าฉันเสียความเป็นตัวเองไปแล้ว.... เอาเถอะ ฉันคิดว่าทุกคนก็คิดแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ~ ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองตกลงไปที่ก้นบึ้งของหลุมมาเหมือนกัน

แต่หม่าม๊าพยายามดันฉันขึ้นมา ด้วยการขุดหลุมลงไปให้ลึกขึ้น จนไปถึงโลกใหม่

ที่นั่นคงเป็นเหมือนนรก แต่ฉันก็ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตต่อไปที่นั่นเช่นกัน

ความกลัวไม่ได้ทำให้เกิดดีๆ ขึ้นมาอยู่แล้วล่ะ

มันคือความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของโลกเลย ที่อัจฉริยะอย่างฉันจะทิ้งเวลาไปวันๆ โดยที่ไม่แต่งเพลงเลย!วะฮ่าฮ่า!

นั่นคือสิ่งที่ฉันคอยคิดอยู่เสมอเวลาที่ฉันได้ลงมือเขียนโน้ตเพลงออกมาทีละตัว

พยายามจดจำความเจ็บปวดและความเศร้า วันหนึ่งมันจะกลายเป็นอินสปิเรชั่นสำหรับบทเพลงใหม่ ฉันเชื่อแบบนั้น แล้วก็ค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าเพื่อว่าซักวันหนึ่งฉันจะได้เริ่มมันอีกครั้ง

อย่างแรก ฉันจะขอมอบบทเพลงสวดส่งวิญญาณให้กับตัวเอง เจ้าคนขี้แพ้ เหมือนกับที่โมซาร์ททำ

เจ้าหมอนั่นคงนั่งแต่งเพลงอยู่บนสวรรค์แน่ๆ บ้าจริง

ฉันยังฟังมันมากเลย! แต่ว่าฉันเป็นอัจฉริยะประเภทที่จะเก็บสิ่งที่ต้องการที่สุดไว้หลังสุด!

วะฮ่าฮ่าฮ่า! สำหรับตอนนี้ฉันจะบรรเลงเพลงที่สามารถสร้างขึ้นมาได้เพียงแค่ในโลกที่น่าอึดอัดแบบนี้เอง!


มาดาระ : เยี่ยมไปเลย! งั้นฉันจะให้ยืมมือของฉันแล้วกัน เลโอซัง 


เลโอ : ขอบคุณมากเพื่อนรัก! ฉันรักนาย!

แต่ว่าให้ฉันได้ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไปเถอะนะ! ฉันบอกนายแบบนี้ตลอด หม่าม๊า แต่ว่าเวลาฉันยืมมือนายทีไร มือของนายมันแข็งแกร่งเกินไป มันสร้างหายนะได้เลยนะ!


มาดาระ : งั้นเหรอ แต่นั่นคือสิ่งที่ฉันเป็นห่วงที่สุดเลยล่ะ ฉันหวังว่าทุกคนจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน


เลโอ : วะฮ่าฮ่าฮ่า! ตราบใดที่นายมีแรงมากพอที่จะยกปากการขึ้นมา นายก็สามารถแต่งเพลงออกมาได้! นายยังมีชีวิตอยู่ต่อไปได้!

เอาล่ะ สำหรับมือใหม่ ฉันอยากให้หม่าม๊าเล่นเพลงที่ฉันเพิ่งจะแต่งเสร็จ... "บทสวดส่งวิญญาณสำหรับทสึกินากะ เลโอ" 


มาดาระ : ฟังดูเป็นลางร้ายยังไงก็ไม่รู้ แต่ฉันคิดว่ามันคือจุดสำคัญของคอนเสิร์ตวันนี้เลยล่ะ

ฉันบอกนายไปรึยังนะ? พวกเราทุกคนเตรียมคอนเสิร์ตไปแล้ว แต่ว่าพวกเรามีนักดนตรีไม่พอ เพราะว่าพวกเขาต่อต้านนโยบายที่พวกเราจัดขึ้น

นั่นเลยทำให้สปอนเซอร์กับผู้จัดการคอนเสิร์ตมีปัญหามากๆ เลยล่ะ

พวกเขาถามฉัน "นายพอจะทำอะไรได้บ้างมั้ย มิเคจิมะคุง?" ฉันก็เลยโดนลากไปเกี่ยวด้วยเลย

ฉันไม่เคยปฏิเสธคำขอร้อง ฉันเป็นคนแบบนี้แหละนะ

จริงๆ ฉันก็จัดการเองได้อยู่หรอก แต่ว่า... เลโอซัง ถ้าเกิดนายอยากล่ะก็ ช่วยเล่นเพลงออกมาเถอะนะ แม้ว่ามันจะเป็นเพลงที่นายเพิ่งแต่งออกมาก็เถอะ

ในท้ายที่สุดแล้ว ฉันที่พยายามรวบรวมทุกอย่างเอาไว้ด้วยกัน ฉันก็ยังอยากมอบสิ่งเหล่านี้ให้กับผู้คนที่อยู่ไกลออกไปมากจริงๆ

=====================================

เหลืออีกแค่ 1 ตอนจะจบแล้วนะคะ สำหรับ Concerto

ตอนนี้เป็นตอนที่เราไม่เคยอ่านมาก่อนจริงๆ ค่ะ เพราะหนีไปแปลอย่างอื่นมา บทนี้ยังไม่เคยได้อ่านผ่านๆ เลย

ตอนที่อ่านก็รู้สึกอินไปกับหม่าม๊าและเลโอมากจริงๆ ไม่รู้เลยว่าเจออะไรกันมาบ้าง

ในบทสุดท้ายก็ขอฝากไว้ในอ้อมอกกันด้วยนะคะ <3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Cacophony◆Whirling Horror Night Halloween - HOLLOW WIN 8

  ผู้แปล : Grazioco สถานที่ : ห้องเก็บเสียงสำหรับซ้อม มาโคโตะ : อืม แต่ว่าช่วงนี้น่ะ ผมรู้สึกว่าต่อให้พวกเราพยายามจะกั๊กข้อมูลยังไง มั...